คณะอนุกรรมการร้องทุกข์ กกท.ประเดิมงานใหม่ปี 2563 ด้วยวาระการรับเรื่องร้องทุกข์ระหว่าง จ่าอากาศตรี กันตพัฒน์ คูณมี นักวอลเลย์บอลทีมชาติไทย กับคู่กรณีต้นสังกัดสโมสรวอลเลย์บอลแอร์ฟอร์ซ
เมื่อเช้าวันที่ 8 ม.ค.63 เวลา 10.00 น.ที่ ห้องประชุม 1 ชั้น 7 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย พลเอก พนา ถนอมสิงห์ ประธานอนุกรรมการเรื่องร้องทุกข์ การกีฬาแห่งประเทศไทย พร้อมคณะอนุกรรมการรวม 16 ท่าน ประชุมพิจารณารับเรื่องร้องทุกข์กรณี จ่าอากาศตรี กันตพัฒน์ คูณมี นักวอลเลย์บอลชายทีมชาติไทย กับคู่กรณี สโมสรวอลเลย์บอลแอร์ฟอร์ซ กับกรณีต้องการยกเลิกสัญญาที่ไม่ตรงกับหนังสือสัญญาที่ผู้ร้องเซ็นไว้ในการลงเล่นกับสโมสรวอลเลย์บอลแอร์ฟอร์ซเป็นเวลา 1 ปี ณ วันเซ็นสัญญา แต่ในสัญญาที่สโมสรแอร์ฟอร์ซถือไว้ระบุไว้เป็นเวลา 5 ปี และเบี้ยเลี้ยงการฝึกซ้อมที่ได้รับไม่ตรงกับที่ระบุไว้ในสัญญาจึงเป็นที่มาของการยื่นเรื่องร้องทุกข์ในกรณีดังกล่าว
โดยคณะอนุกรรมการพิจารณารับเรื่องร้องทุกข์ใช้เวลาซักถามทั้งผู้ร้อง จ่าอากาศตรี กันตพัฒน์ คูณมี และผู้ถูกร้องสโมสรวอลเลย์บอลแอร์ฟอร์ซ โดยมี พลอากาศโท ชาติชาย รอดบุญพา ประธานสโมสร เข้าตอบข้อซักถามจากคณะอนุกรรมการพิจารณาเรื่องร้องทุกข์เป็นเวลากว่าสองชั่วโมง โดยมีข้อสรุปในการพิจารณาเรื่องร้องทุกข์ ที่ผู้ถูกร้องจ่าอากาศตรี กันตพัฒน์ คูณมี ขาดความเข้าใจในการพิจารณาข้อสัญญากับทางสโมสรวอลเลย์บอลแอร์ฟอร์ซอย่งถ่องแท้ ซึ่งอาจทำให้เสียโอกาสในการลงเล่นวอลเลย์บอลลีกอาชีพตลอด 4 ฤดูกาลจากนี้ ซึ่งจะทำให้ส่งผลกับการพัฒนาฝีมือของตนเอง ซึ่งเป็นนักกีฬาอาชีพและนักกีฬาทีมชาติไทย โดยทั้งผู้ร้องและผู้ถูกร้องต่างมีเหตุผลของตัวเอง ทางคณะอนุกรรมการพิจารณาเรื่องร้องทุกข์ จึงให้เวลาอีก 15 วัน เพื่อให้ผู้ร้องและผู้ถูกร้องได้ไกล่เกลี่ยหาข้อยุติ ก่อนกลับมาประชุมพิจารณากันอีกครั้ง
โดยคณะอนุกรรมการพิจารณารับเรื่องร้องทุกข์ใช้เวลาซักถามทั้งผู้ร้อง จ่าอากาศตรี กันตพัฒน์ คูณมี และผู้ถูกร้องสโมสรวอลเลย์บอลแอร์ฟอร์ซ โดยมี พลอากาศโท ชาติชาย รอดบุญพา ประธานสโมสร เข้าตอบข้อซักถามจากคณะอนุกรรมการพิจารณาเรื่องร้องทุกข์เป็นเวลากว่าสองชั่วโมง โดยมีข้อสรุปในการพิจารณาเรื่องร้องทุกข์ ที่ผู้ถูกร้องจ่าอากาศตรี กันตพัฒน์ คูณมี ขาดความเข้าใจในการพิจารณาข้อสัญญากับทางสโมสรวอลเลย์บอลแอร์ฟอร์ซอย่งถ่องแท้ ซึ่งอาจทำให้เสียโอกาสในการลงเล่นวอลเลย์บอลลีกอาชีพตลอด 4 ฤดูกาลจากนี้ ซึ่งจะทำให้ส่งผลกับการพัฒนาฝีมือของตนเอง ซึ่งเป็นนักกีฬาอาชีพและนักกีฬาทีมชาติไทย โดยทั้งผู้ร้องและผู้ถูกร้องต่างมีเหตุผลของตัวเอง ทางคณะอนุกรรมการพิจารณาเรื่องร้องทุกข์ จึงให้เวลาอีก 15 วัน เพื่อให้ผู้ร้องและผู้ถูกร้องได้ไกล่เกลี่ยหาข้อยุติ ก่อนกลับมาประชุมพิจารณากันอีกครั้ง
ไม่มีความคิดเห็น