เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป เปิดบริการโรงภาพยนตร์ New Normal ด้วย 5 มาตรการหลักขั้นสูงสุด พร้อมจับมือ เอไอเอส นำหุ่นยนต์อัจฉริยะช่วยตรวจคัดกรองวัดอุณหภูมิลูกค้าก่อนเข้าโรงภาพยนตร์
เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ตอบรับหลังการคลายล็อกดาวน์ระยะที่ 3 ของ ศบค.ในทันที เปิดบริการโรงภาพยนตร์ให้คอหนังได้เฮ 1 มิถุนายนนี้ แบบ New Normal ด้วยวิถีไลฟ์สไตล์ใหม่ในการชมภาพยนตร์ มั่นใจกับ 5 มาตรการหลักขั้นสูงสุด คุมเข้มความสะอาดและความปลอดภัย เน้น Social Distancing การเว้นระยะห่างในโรงภาพยนตร์ พิเศษ...สัมผัสความเอ็กซ์คลูซีฟกับ “Partition Shield” ฉากกั้นระหว่างที่นั่ง ที่ให้ความเป็นส่วนตัวและปลอดภัย ส่งเสริมการชำระเงินด้วยระบบ Cashless หรือ E-Payment พร้อมจับมือ เอไอเอส ผู้นำด้านเทคโนโลยีดิจิทัลที่สอดรับกับไลฟ์สไตล์ยุค New Normal นำหุ่นยนต์อัจฉริยะ ช่วยตรวจคัดกรองวัดอุณหภูมิลูกค้าก่อนเข้าโรงภาพยนตร์ ที่ พารากอน ซีนีเพล็กซ์ และไอคอน ซีเนคอนิค
นรุตม์ เจียรสนอง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากที่ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ประกาศผ่อนคลายล็อกดาวน์ระยะที่ 3 โดยให้โรงภาพยนตร์กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในวันที่ 1 มิถุนายน 2563 นั้น บริษัทฯ มีความพร้อมให้บริการโรงภาพยนตร์ได้ในทันที ด้วยมาตรการ New Normal ขั้นสูงสุด เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการตามแผนป้องกันโควิด-19 ด้วย 5 มาตรการหลักขั้นสูงสุดในการให้บริการ ดังนี้
1. Screening การตรวจคัดกรองลูกค้าทุกคน ด้วยการวัดอุณหภูมิ ให้สวมใส่หน้ากากอนามัย ล้างทำความสะอาดมือด้วยเจลแอลกอฮอลล์ก่อนเข้าใช้บริการ 2. Social Distancing การเว้นระยะห่างทางสังคม ตั้งแต่การเข้าแถวรอคิวทุกจุดที่เข้าใช้บริการในระยะห่าง 1 เมตร มีฉากกั้นระหว่างพนักงานและลูกค้าทุกจุดเคาน์เตอร์บริการ ที่สำคัญภายในโรงภาพยนตร์มีการเว้นระยะห่าง นั่ง 2 ที่นั่ง เว้น 2 ที่นั่ง ในแถวเดียวกัน และแถวเว้นแถว โดยจัดนั่งระหว่างแถวแบบสลับฟันปลา พร้อมเพิ่มมาตรการพิเศษแบบเอ็กซ์คลูซีฟกับ “Partition Shield” ฉากกั้นระหว่างที่นั่งภายในโรงภาพยนตร์ทุก 4 ที่นั่ง ที่ให้ความเป็นส่วนตัวและปลอดภัย
3. Cleaning การทำความสะอาดทุกจุดพื้นที่และภายในโรงภาพยนตร์ก่อนเข้าฉายแต่ละเรื่องทุกรอบ
4. Cashless เลี่ยงการแพร่เชื้อด้วยการลดสัมผัส ด้วยการใช้จ่ายโดยไม่ใช้เงินสด ทั้งการซื้อตั๋วหนัง ป๊อปคอร์นและน้ำ สามารถทานในโรงภาพยนตร์ได้
5. Tracking การติดตามและตรวจสอบได้ มีการเช็คอิน-เช็คเอาท์ของลูกค้า เพื่อสะดวกในการติดตาม
อย่างไรก็ตามไลฟ์สไตล์การชมภาพยนตร์ของลูกค้าภายหลังจากการคลายล็อกดาวน์ระยะที่ 3 จะเปลี่ยนไปตามวิถีชีวิตใหม่แบบ New Normal ซึ่งการชมภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์จะต้องมีการเว้นระยะห่าง Social Distancing นั่ง 2 ที่นั่ง เว้น 2 ที่นั่ง สัมผัสมาตรการพิเศษแบบเอ็กซ์คลูซีฟกับ “Partition Shield” ฉากกั้นระหว่างที่นั่ง ทุก 4 ที่นั่ง ที่ให้ความเป็นส่วนตัวและปลอดภัย นอกจากนี้ หลังจบการฉายภาพยนตร์ในแต่ละเรื่องทุกรอบ จะต้องทำความสะอาดภายในโรงภาพยนตร์ด้วยการอบโอโซนและเช็ดทำความสะอาดเก้าอี้ที่นั่งด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค ใช้เวลา 30 นาที หลังจากนั้นจึงจะฉายภาพยนตร์ในรอบเวลาต่อไป
นายนรุตม์ กล่าวว่า การชมภาพยนตร์แบบ New Normal ซึ่งต้องมีการเว้นระยะห่าง ทำให้จำนวนที่นั่งลดน้อยลง อาจทำให้เกิดพฤติกรรมการจองและซื้อตั๋วล่วงหน้า ดังนั้น ก่อนมาใช้บริการแนะนำให้จองและซื้อตั๋วผ่าน Application Major Cineplex หรือ Web และเมื่อมาใช้บริการสามารถซื้อได้ที่ ตู้จำหน่ายบัตรอัตโนมัติ E Ticket เน้นการชำระเงินด้วยระบบ Cashless หรือ E-Payment แทนการใช้เงินสดเพื่อลดการสัมผัส พบโปรโมชั่นพิเศษต้อนรับการกลับมาเปิดบริการอีกครั้ง เมื่อซื้อบัตรชมภาพยนตร์ผ่าน App Major Cineplex รับส่วนลด 30 บาทต่อที่นั่ง สมาชิกบัตร M Gen Regular รับส่วนลด 50 บาทต่อที่นั่ง พิเศษ! สมาชิก M Gen ทุกประเภท เมื่อซื้อผ่าน App Major Cineplex รับคะแนนเพิ่ม 5 เท่า ตั้งแต่วันที่ 3-30 มิถุนายน 2563 เฉพาะที่โรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ 64 สาขา ตรวจสอบรายชื่อสาขาได้ที่ Facebook Major Group และ www.majorcineplex.com
นอกจากนี้ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ยังได้รับการสนับสนุนจากเอไอเอส พันธมิตรธุรกิจ ผู้นำเทคโนโลยีดิจิทัลที่สอดรับกับไลฟ์สไตล์ยุค New Normal มาสร้างมาตรฐานใหม่ในการดูแลลูกค้า ด้วยการนำหุ่นยนต์อัจฉริยะ ซึ่งพัฒนาโดยทีมวิจัยของเอไอเอส อย่าง หุ่นยนต์ ROBOT FOR CARE (ROC) ที่ทำงานบน LIVE Network 5G มาช่วยตรวจคัดกรองวัดอุณหภูมิลูกค้าก่อนเข้าโรงภาพยนตร์ และ หุ่นยนต์ PP ที่จะทำหน้าที่ต้อนรับและเปิดให้ชมภาพยนตร์ตัวอย่างที่กำลังเข้าฉายให้ลูกค้าได้รับชมก่อนตัดสินใจเลือกชม ที่โรงภาพยนตร์พารากอน ซีนีเพล็กซ์ และไอคอน ซีเนคอนิค
ปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป เอไอเอส กล่าวว่า การผ่อนปรนระยะที่ 3 ช่วยให้บรรยากาศโดยรวมของประเทศผ่อนคลายมากขึ้น พื้นที่ศูนย์การค้าและโรงภาพยนตร์
เป็นแหล่งรวมความสุขของทุกครอบครัวที่จะได้มาใช้เวลาร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการทานอาหารหรือดูหนังนอกบ้าน ขณะเดียวกัน สิ่งที่ทุกภาคส่วนยังต้องตระหนักอยู่เสมอ นั่นก็คือการรักษาระยะห่าง Social Distance ตามมาตรการภาครัฐอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ เอไอเอส ได้จับมือร่วมกับเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ นำขีดความสามารถของเทคโนโลยี 5G มาช่วยเสริมมาตรการรักษาความปลอดภัยและสุขอนามัยของประชาชนอย่างเต็มที่ เพื่อมอบความอุ่นใจ ให้คนไทยใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและปลอดภัย ประกอบด้วย
1. ติดตั้งเครือข่าย 5G ครอบคลุมเต็มทุกพื้นที่ เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของลูกค้าเอไอเอสทั้งบนเครือข่าย 4G และ 5G
2. นำหุ่นยนต์ช่วยปฏิบัติหน้าที่ในการคัดกรอง ตรวจวัดอุณหภูมิ และดูแลสุขอนามัยได้อย่างรวดเร็ว มีความแม่นยำสูง เพื่อลดการสัมผัสใกล้ชิด และป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ภายในพื้นที่โรงภาพยนตร์ สำหรับหุ่นยนต์ที่จะมาช่วยดูแลคนไทย ได้แก่
• หุ่นยนต์ ROBOT FOR CARE (ROC) ช่วยปฏิบัติหน้าที่คัดกรองและตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าโรงภาพยนตร์, วางเจลแอลกอฮอล์ให้บริการ
• หุ่นยนต์ AIS K9 บริการเจลแอลกอฮอล์ รอบๆ พื้นที่โรงภาพยนตร์
• หุ่นยนต์ PP มาทำหน้าที่ต้อนรับและแสดงตัวอย่างภาพยนตร์ที่กำลังเข้าฉายให้ลูกค้าได้รับชมก่อนตัดสินใจด้วย
• หุ่นยนต์ LISA ทำหน้าที่ต้อนรับ, ให้ข้อมูล และพัฒนาระบบนำทางจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดที่กำหนดไว้
ผมเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า นวัตกรรมที่เอไอเอสร่วมคิดค้นและพัฒนามาโดยตลอด จะเป็นโยชน์ต่อการใช้ชีวิตและหนุนเสริมภาคธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยี 5G ที่จับต้องได้
เพื่อตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ จะเข้ามาตอบโจทย์วิถีชีวิตยุคใหม่ให้อุ่นใจยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลาที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ตระหนักดีถึงความสำคัญในความสะอาดและความปลอดภัยของลูกค้าอย่างสูงสุด โดยปฏิบัติอย่างเคร่งครัดในมาตรการความปลอดภัยตามมาตรฐานสาธารณสุขสากล ด้วยการเฝ้าระวังและป้องกันขั้นสูงสุด นับตั้งแต่มีการเริ่มแพร่ระบาด ด้วยการทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคในทุกพื้นที่ ภายในศูนย์การค้าและโรงภาพยนตร์ โดยการทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วมต่าง ๆ อาทิ ราวจับประตู, ราวจับบันไดเลื่อน, ปุ่มกดลิฟต์ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุก 1 ชั่วโมง ดูแลระบบเครื่องปรับอากาศและห้องเครื่องปรับอากาศ AHU ด้วยการฉีดยาฆ่าเชื้อและอบโอโซนทุกวัน ทำความสะอาดภายในห้องน้ำด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุก 1 ชั่วโมง ให้บริการสบู่เหลวล้างมือและกระดาษเช็ดมืออย่างเพียงพอ พร้อมบริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือในจุดต่าง ๆ อย่างทั่วถึง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการ และเพื่อความปลอดภัยสูงสุดของลูกค้าเป็นสำคัญ
ปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป เอไอเอส กล่าวว่า การผ่อนปรนระยะที่ 3 ช่วยให้บรรยากาศโดยรวมของประเทศผ่อนคลายมากขึ้น พื้นที่ศูนย์การค้าและโรงภาพยนตร์
เป็นแหล่งรวมความสุขของทุกครอบครัวที่จะได้มาใช้เวลาร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการทานอาหารหรือดูหนังนอกบ้าน ขณะเดียวกัน สิ่งที่ทุกภาคส่วนยังต้องตระหนักอยู่เสมอ นั่นก็คือการรักษาระยะห่าง Social Distance ตามมาตรการภาครัฐอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ เอไอเอส ได้จับมือร่วมกับเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ นำขีดความสามารถของเทคโนโลยี 5G มาช่วยเสริมมาตรการรักษาความปลอดภัยและสุขอนามัยของประชาชนอย่างเต็มที่ เพื่อมอบความอุ่นใจ ให้คนไทยใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและปลอดภัย ประกอบด้วย
1. ติดตั้งเครือข่าย 5G ครอบคลุมเต็มทุกพื้นที่ เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของลูกค้าเอไอเอสทั้งบนเครือข่าย 4G และ 5G
2. นำหุ่นยนต์ช่วยปฏิบัติหน้าที่ในการคัดกรอง ตรวจวัดอุณหภูมิ และดูแลสุขอนามัยได้อย่างรวดเร็ว มีความแม่นยำสูง เพื่อลดการสัมผัสใกล้ชิด และป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ภายในพื้นที่โรงภาพยนตร์ สำหรับหุ่นยนต์ที่จะมาช่วยดูแลคนไทย ได้แก่
• หุ่นยนต์ ROBOT FOR CARE (ROC) ช่วยปฏิบัติหน้าที่คัดกรองและตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าโรงภาพยนตร์, วางเจลแอลกอฮอล์ให้บริการ
• หุ่นยนต์ AIS K9 บริการเจลแอลกอฮอล์ รอบๆ พื้นที่โรงภาพยนตร์
• หุ่นยนต์ PP มาทำหน้าที่ต้อนรับและแสดงตัวอย่างภาพยนตร์ที่กำลังเข้าฉายให้ลูกค้าได้รับชมก่อนตัดสินใจด้วย
• หุ่นยนต์ LISA ทำหน้าที่ต้อนรับ, ให้ข้อมูล และพัฒนาระบบนำทางจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดที่กำหนดไว้
ผมเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า นวัตกรรมที่เอไอเอสร่วมคิดค้นและพัฒนามาโดยตลอด จะเป็นโยชน์ต่อการใช้ชีวิตและหนุนเสริมภาคธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยี 5G ที่จับต้องได้
เพื่อตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ จะเข้ามาตอบโจทย์วิถีชีวิตยุคใหม่ให้อุ่นใจยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลาที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ตระหนักดีถึงความสำคัญในความสะอาดและความปลอดภัยของลูกค้าอย่างสูงสุด โดยปฏิบัติอย่างเคร่งครัดในมาตรการความปลอดภัยตามมาตรฐานสาธารณสุขสากล ด้วยการเฝ้าระวังและป้องกันขั้นสูงสุด นับตั้งแต่มีการเริ่มแพร่ระบาด ด้วยการทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคในทุกพื้นที่ ภายในศูนย์การค้าและโรงภาพยนตร์ โดยการทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วมต่าง ๆ อาทิ ราวจับประตู, ราวจับบันไดเลื่อน, ปุ่มกดลิฟต์ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุก 1 ชั่วโมง ดูแลระบบเครื่องปรับอากาศและห้องเครื่องปรับอากาศ AHU ด้วยการฉีดยาฆ่าเชื้อและอบโอโซนทุกวัน ทำความสะอาดภายในห้องน้ำด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุก 1 ชั่วโมง ให้บริการสบู่เหลวล้างมือและกระดาษเช็ดมืออย่างเพียงพอ พร้อมบริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือในจุดต่าง ๆ อย่างทั่วถึง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการ และเพื่อความปลอดภัยสูงสุดของลูกค้าเป็นสำคัญ
ไม่มีความคิดเห็น