สิงคโปร์นำร่องจัดงานประชุมใหญ่ในรูปแบบ New Normal หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ ฟื้นฟูอุตสาหกรรม MICE ในประเทศ
ประเทศสิงคโปร์คือหนึ่งในศูนย์กลางอุตสาหกรรม BTMICE (Business Travel, Meetings, incentives, Exhibitions and Conferences) ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชีย แต่ละปีมีงานนิทรรศการ การจัดประชุม งานแสดงสินค้า คอนเสิร์ต ไปจนถึงงานบันเทิงต่าง ๆ มากมายที่จัดขึ้นที่นี่ แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 ทำให้งาน MICE ทั้งหลายต้องหยุดชะงักลงตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา
เมื่อวิกฤติต่าง ๆ เริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดี จนล่าสุดสามารถเปิดสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งได้แล้ว การท่องเที่ยวสิงคโปร์ (Singapore Tourism Board: STB) จึงได้เริ่มนำร่องจัดงานไมซ์ (MICE) ขึ้นมาในรูปแบบใหม่ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ New Normal โดยได้ออกมาตรการด้านความปลอดภัย “Safe Business Event Risk Management Framework” หรือ “ข้อตกลงในการจัดการความเสี่ยงในการจัดอีเวนท์เชิงธุรกิจ” ซึ่งทางผู้จัดงาน หรือออร์แกไนเซอร์จะต้องปฏิบัติตาม ดังนี้
1. ผู้จัดงานจะต้องมีมาตรการควบคุมการติดเชื้อในทุกขั้นตอนของการเข้าร่วมงาน (ตั้งแต่ก่อนเริ่มงาน ระหว่างวันงาน จนถึงหลังจบงานไปแล้ว)
2. ผู้จัดงานจะต้องมีมาตรการรักษาระยะห่างระหว่างผู้ร่วมงานแต่ละคน โดยจะต้องเว้นช่องว่างอย่างน้อย 1 เมตรระหว่างบุคคล ตลอดระยะเวลาของงาน
3. ผู้จัดงานจะต้องมีการจำกัดจำนวนคนภายในงาน (ทั้งผู้เข้าร่วมงานและเจ้าหน้าที่) ให้ไม่เกินตามกำหนด 50 คนต่อครั้ง
4. ผู้จัดงานจะต้องรักษาสภาพแวดล้อมให้มีความสะอาดและปลอดภัย ตามข้อกำหนดของ SG Clean และรัฐบาลสิงคโปร์
5. ผู้จัดงานจะต้องมีการเตรียมพร้อมรับมือเหตุฉุกเฉินที่เกี่ยวเนื่องกับ COVID-19
เมื่อวิกฤติต่าง ๆ เริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดี จนล่าสุดสามารถเปิดสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งได้แล้ว การท่องเที่ยวสิงคโปร์ (Singapore Tourism Board: STB) จึงได้เริ่มนำร่องจัดงานไมซ์ (MICE) ขึ้นมาในรูปแบบใหม่ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ New Normal โดยได้ออกมาตรการด้านความปลอดภัย “Safe Business Event Risk Management Framework” หรือ “ข้อตกลงในการจัดการความเสี่ยงในการจัดอีเวนท์เชิงธุรกิจ” ซึ่งทางผู้จัดงาน หรือออร์แกไนเซอร์จะต้องปฏิบัติตาม ดังนี้
1. ผู้จัดงานจะต้องมีมาตรการควบคุมการติดเชื้อในทุกขั้นตอนของการเข้าร่วมงาน (ตั้งแต่ก่อนเริ่มงาน ระหว่างวันงาน จนถึงหลังจบงานไปแล้ว)
2. ผู้จัดงานจะต้องมีมาตรการรักษาระยะห่างระหว่างผู้ร่วมงานแต่ละคน โดยจะต้องเว้นช่องว่างอย่างน้อย 1 เมตรระหว่างบุคคล ตลอดระยะเวลาของงาน
3. ผู้จัดงานจะต้องมีการจำกัดจำนวนคนภายในงาน (ทั้งผู้เข้าร่วมงานและเจ้าหน้าที่) ให้ไม่เกินตามกำหนด 50 คนต่อครั้ง
4. ผู้จัดงานจะต้องรักษาสภาพแวดล้อมให้มีความสะอาดและปลอดภัย ตามข้อกำหนดของ SG Clean และรัฐบาลสิงคโปร์
5. ผู้จัดงานจะต้องมีการเตรียมพร้อมรับมือเหตุฉุกเฉินที่เกี่ยวเนื่องกับ COVID-19
โดยมาตรการดังกล่าวจะถูกนำมาใช้กับ 2 งานประชุมใหญ่ที่กำลังจะจัดขึ้นเร็ว ๆ นี้ ได้แก่ การประชุม 2020 IEEE International Conference on Computational Electromagnetics ซึ่งจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 24-26 สิงหาคม 2563 และการประชุม Asia Pacific MedTech Virtual Forum 2020 ในวันที่ 24 กันยายน 2563 โดยจะดำเนินการในรูปแบบ Hybrid ผสมผสานระหว่างการจัดงานในสถานที่จริงที่รองรับผู้เข้าชมได้ไม่เกิน 50 คน และงานบนแพลตฟอร์มออนไลน์ที่สามารถรองรับผู้ร่วมงานได้กว่าพันคน สาเหตุที่งานประชุมทั้งสองงานได้รับเลือกเป็นโครงการนำร่อง เนื่องมาจากผู้จัดงานได้ร่วมมือกับทางอย่างใกล้ชิด เพื่อสรรหามาตรการความปลอดภัยในการจัดงานไมซ์แบบ New Normal ซึ่งหากทั้งสองงานนี้สามารถดำเนินไปได้อย่างเรียบร้อย ทาง STB ก็จะเริ่มผ่อนผันให้งานไมซ์อื่น ๆ สามารถจัดขึ้นได้ภายใต้กรอบข้อกำหนดนี้
แม้ว่าที่ผ่านมา งานอีเวนท์หลายอย่างจะถูกยกเลิกไป แต่ก็ยังมีบางงานที่ปรับเปลี่ยนไปใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อจัดประชุม แสดงนิทรรศการ หรือประกอบกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ปาร์ตี้ออนไลน์ Zouk Phuturescapes ที่ใช้ ZOOM และเทคโนโลยี Virtual Reality เข้ามายกระดับประสบการณ์ที่ใกล้เคียงราวกับอยู่ในไนต์คลับ นิทรรศการ International Dental Exhibition and Meeting (IDEM) ซึ่งเปลี่ยนงานประชุมและแสดงสินค้าให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล และสามารถดึงดูดผู้เข้าชมได้เกือบ 4,000 คน และในเดือนนี้ก็จะมีงานเทศกาลอาหาร Singapore Food Festival 2020 ซึ่งจะย้ายไปอยู่บนแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยมีคลาสสอนทำอาหารแบบไลฟ์สด ระหว่างวันที่ 21-30 สิงหาคม 2563 นี้
นายคีธ ทัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการท่องเที่ยวสิงคโปร์ (STB) กล่าวว่า “ที่ผ่านมา อุตสาหกรรม BTMICE ในสิงคโปร์รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤติ COVID-19 ซึ่งทาง STB เองรู้สึกชื่นชมผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมนี้ที่แสดงให้เห็นถึงความอดทน การปรับตัวรับสถานการณ์ รวมถึงการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อช่วยแก้ปัญหา ผมจึงมั่นใจว่าด้วยการร่วมมือกันของทุกภาคส่วน อุตสาหกรรมไมซ์สิงคโปร์จะสามารถสรรหาวิธีการจัดงานที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และเหมาะสมกับสถานการณ์ เพื่อให้สิงคโปร์กลับขึ้นมาเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญในการจัดงาน BTMICE ที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม”
แม้ว่าในตอนนี้สิงคโปร์จะยังไม่เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติตามปกติ แต่ทางการก็ได้ทยอยเปิดให้ชาวต่างชาติสามารถเดินทางเข้าประเทศได้ในจำนวนจำกัด สำหรับการติดต่อธุรกิจ หรือธุระสำคัญอื่น ๆ ซึ่งภาครัฐมีมาตรการพิเศษเพื่อดูแลเรื่องสุขภาพและความปลอดภัย โดยให้ความสำคัญกับการป้องกันการแพร่ระบาดเป็นอันดับหนึ่ง
ทั้งนี้ หากประเทศสิงคโปร์สามารถฟื้นฟูอุตสาหกรรมไมซ์ให้กลับมาจัดงานอีเวนท์ต่าง ๆ ได้ดังเดิม จะเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของสิงคโปร์ และช่วยสร้างโอกาสให้กับธุรกิจ SMEs ภายในประเทศ หลังจากที่ทรุดหนักไปในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
แม้ว่าที่ผ่านมา งานอีเวนท์หลายอย่างจะถูกยกเลิกไป แต่ก็ยังมีบางงานที่ปรับเปลี่ยนไปใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อจัดประชุม แสดงนิทรรศการ หรือประกอบกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ปาร์ตี้ออนไลน์ Zouk Phuturescapes ที่ใช้ ZOOM และเทคโนโลยี Virtual Reality เข้ามายกระดับประสบการณ์ที่ใกล้เคียงราวกับอยู่ในไนต์คลับ นิทรรศการ International Dental Exhibition and Meeting (IDEM) ซึ่งเปลี่ยนงานประชุมและแสดงสินค้าให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล และสามารถดึงดูดผู้เข้าชมได้เกือบ 4,000 คน และในเดือนนี้ก็จะมีงานเทศกาลอาหาร Singapore Food Festival 2020 ซึ่งจะย้ายไปอยู่บนแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยมีคลาสสอนทำอาหารแบบไลฟ์สด ระหว่างวันที่ 21-30 สิงหาคม 2563 นี้
นายคีธ ทัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการท่องเที่ยวสิงคโปร์ (STB) กล่าวว่า “ที่ผ่านมา อุตสาหกรรม BTMICE ในสิงคโปร์รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤติ COVID-19 ซึ่งทาง STB เองรู้สึกชื่นชมผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมนี้ที่แสดงให้เห็นถึงความอดทน การปรับตัวรับสถานการณ์ รวมถึงการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อช่วยแก้ปัญหา ผมจึงมั่นใจว่าด้วยการร่วมมือกันของทุกภาคส่วน อุตสาหกรรมไมซ์สิงคโปร์จะสามารถสรรหาวิธีการจัดงานที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และเหมาะสมกับสถานการณ์ เพื่อให้สิงคโปร์กลับขึ้นมาเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญในการจัดงาน BTMICE ที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม”
แม้ว่าในตอนนี้สิงคโปร์จะยังไม่เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติตามปกติ แต่ทางการก็ได้ทยอยเปิดให้ชาวต่างชาติสามารถเดินทางเข้าประเทศได้ในจำนวนจำกัด สำหรับการติดต่อธุรกิจ หรือธุระสำคัญอื่น ๆ ซึ่งภาครัฐมีมาตรการพิเศษเพื่อดูแลเรื่องสุขภาพและความปลอดภัย โดยให้ความสำคัญกับการป้องกันการแพร่ระบาดเป็นอันดับหนึ่ง
ทั้งนี้ หากประเทศสิงคโปร์สามารถฟื้นฟูอุตสาหกรรมไมซ์ให้กลับมาจัดงานอีเวนท์ต่าง ๆ ได้ดังเดิม จะเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของสิงคโปร์ และช่วยสร้างโอกาสให้กับธุรกิจ SMEs ภายในประเทศ หลังจากที่ทรุดหนักไปในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
ไม่มีความคิดเห็น