ม.สวนดุสิตพลิกโฉมท่องเที่ยวตราดดันร่อนพลอยทับทิมสยามฟื้นโควิด

คณะวิจัยม.สวนดุสิตเร่งมือยกระดับการท่องเที่ยวโดยชุมชน อ.บ่อไร่ จ.ตลาด เพื่อพลิกฟื้นในช่วงโควิด-19 หลังคลิปไวรัล “การร่อนพลอย” ทำนักท่องเที่ยวแห่ชมของจริง พร้อมผสานวิถีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของชนพื้นเมือง “ชาวชอง” เป็นจุดขายร่วม ภายใต้การสนับสนุนจากนายอำเภอบ่อไร่

นายภานุวัฒน์ พุทธเกสร นายอำเภอบ่อไร่ จ. ตราด เป็นประธานการประชุมร่วมกับคณะวิจัยจากมหาวิทยาลัยสวนดุสิต นำโดย รศ. ดร.พรรณี สวนเพลง ผู้อำนวยการแผนงานวิจัย และคณะวิจัยโครงการ “การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอาหารไทยของชุมชน (Gastronomy Village Tourism) ในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวเมืองรองชายฝั่งทะเลตะวันออก (ระยอง-จันทบุรี-ตราด) บนรากฐานคุณค่าและภูมิปัญญาสู่ความยั่งยืนเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก” ซึ่งได้ทุนสนับสนุนการวิจัยมาจากหน่วยการบริหารและจัดการทุน ด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563

ทั้งนี้ อ.บ่อไร่ จ. ตราด เป็นพื้นที่มีศักยภาพทางด้านการท่องเที่ยวสูงมาก โดยเฉพาะ ต.ช้างทูล และ ต.หนองมน ที่มีเหมืองแร่และมีการขุดพลอยทับทิมสยาม ซึ่งสามารถเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันซีนแห่งใหม่ด้วยการนำเสนอ ‘การร่อนพลอย’ ซึ่งจะพบพลอยได้เยอะมากโดยเฉพาะในฤดูฝน ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สร้างความสนุกตื่นเต้นให้กับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีบ้านช้างทูลที่มีชื่อโด่งดัง มี “สปาสุ่มไก่” แห่งแรกของประเทศไทย ที่สามารถจัดการท่องเที่ยวชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพและรองรับนักท่องเที่ยวในยุคโควิด-19 ที่เน้นการดูแลสุขภาพจากสมุนไพร “ชองระอา” ซึ่งเป็นสมุนไพรสำหรับแก้คุณไสย อันเป็นความเชื่อชาวชองซำเร และมีฤทธิ์ใช้ในการขยายเส้นเลือดและแก้อาการปวดเมื่อยได้เป็นอย่างดี 

รศ. ดร.พรรณี กล่าวว่า จากการสำรวจเบื้องต้นเกี่ยวกับศักยภาพของการท่องเที่ยวจังหวัดตราด สะหงาดสะเงย และนักวิจัยได้จัดทำเพจ GastronomyVillageTourism รวมถึงนำเสนอการร่อนพลอยที่ อ. บ่อไร่ จ. ตราด ปรากฏว่าได้รับการตอบรับดีเกินคาดหมาย มียอดผู้ชมเกือบ 100,000 วิว ภายใน 1 เดือน นับเป็นเรื่องอัศจรรย์มาก เพราะการที่ได้ดูเพียงแค่คลิปเดียวสามารถทำให้เกิดการตลาดแบบไวรัล ที่ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจำนวนอยากจะเดินทางมาท่องเที่ยวเพื่อร่อนพลอยที่บ่อไร่ ทำให้คณะผู้วิจัยต้องเร่งดำเนินการยกระดับแหล่งท่องเที่ยวเพื่อให้รองรับกับกระแสการท่องเที่ยวดังกล่าว โดยได้ความร่วมมือจากส่วนราชการโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากนายอำเภอบ่อไร่ เพื่อดึงศักยภาพของการจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชน เช่น การร่อนพลอย เนื่องจาก อ.บ่อไร่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยังมีพลอยที่ดีสุดในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นทับทิม โกเมน และอื่น ๆ ที่สร้างความตื่นเต้นให้กับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี จึงเป็นกิจกรรมที่ได้รับความสนใจสูงสุดโดยเฉพาะจากนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่ส่งข้อความเข้ามาในเฟซบุ๊กแฟนเพจทุกวัน 

“กระแสดังกล่าวนับได้ว่าเป็นจุดที่ใช้พลิกฟื้นการท่องเที่ยวหลังโควิด-19 ได้ยอดเยี่ยม และทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยสวนดุสิตได้เตรียมปักธงยกระดับการท่องเที่ยว อ.บ่อไร่ โดยบูรณาการไปกับการนำเสนอ “การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอาหารชาวชอง” ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองที่มีวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ที่น่าสนใจมาก ทั้งพิธีกรรม อาหารพื้นถิ่น วิถีชีวิตที่น่าสนใจ รวมถึงจะมีการยกระดับและพัฒนาการจัดการท่องเที่ยวชุมชนให้เป็นระบบอีกด้วย”