อาหารตำหรับมาเลเซีย: การแข่งขันทำอาหาร นาซิ เลอมัก ในประเทศไทย
กรุงเทพฯ 5 ตุลาคม 2563: ชาวมาเลเซียที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย มารวมตัวเพื่อลิ้มลองอาหารมาเลเซียยอดนิยมตลอดกาล นั่นคือ นาซิ เลอมัก ซึ่งสืบเนื่องกับการแข่งขัน “Jaguh Nasi Lemak Challenge” เป็นครั้งแรก งานนี้จัดขึ้นอย่างสำเร็จสมบูรณ์ ณ โรงแรมอีสติน มักกะสัน กรุงเทพ
ชาวมาเลเซียกว่า 130 คนที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียง เข้าร่วมงานเลี้ยง นาซิ เลอมัก ซึ่งจัดขึ้นโดย ชมรมมาเลเซียประเทศไทย และได้รับการสนับสนุนจากสถานฑูตมาเลเซียประจำประเทศไทยเมื่อวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา
ชาวมาเลเซียกว่า 130 คนที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียง เข้าร่วมงานเลี้ยง นาซิ เลอมัก ซึ่งจัดขึ้นโดย ชมรมมาเลเซียประเทศไทย และได้รับการสนับสนุนจากสถานฑูตมาเลเซียประจำประเทศไทยเมื่อวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา
มาเลเซียขึ้นชื่อว่าเป็น ‘สวรรค์แห่งอาหาร’ ที่คุณสามารถลิ้มรสอาหารเลิศรสที่หลากหลายในราคาที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นอาหารมาเลย์ อาหารจีน อาหารอินเดีย และเชื้อชาติอื่น ๆ อีกทั้งหนึ่งในแคมเปญ Malaysia Truly Asia ผ่านการส่งเสริมการขายอาหารของมาเลเซีย ซึ่งช่วยให้มาเลเซียดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้มาที่มาเลเซีย อาหารมาเลเซียยอดนิยมอื่น ๆ นอกจาก นาซิ เลอมัก ได้แก่ ลักซา ปีนัง, สะเต๊ะ, โรตี ชาไน, บักกุเต๋, ก๋วยเตี๋ยวผัด, ข้าวมันไก่, ชาชัก, ขนมเซ็นโด, ขนมเอบีซี น้ำแข็งไสรสต่าง ๆ และอื่น ๆ อีกมากมาย
นาซิ เลอมัก แบบต้นตำหรับประกอบด้วย ข้าวที่หุงด้วยกะทิและใบเตย เสิร์ฟพร้อมพริกแซมบัล ปลากะตักทอดกรอบ ถั่วลิสง ไข่ต้ม และแตงกวาฝาน เป็นอาหารประจำชาติมาเลเซีย เนื่องจากเป็นอาหารหลักที่ทุกคนชื่นชอบ และสามารถแวะหารับประทานได้ง่ายในมาเลเซียทุก ๆ มื้อ ผู้เข้าร่วมแข่งขันทั้งหมด 21 คน ร่วมกับผู้ชม 124 คน ได้ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมนี้ ผู้ที่ชื่นชอบ นาซิ เลอมัก มีโอกาสได้ลิ้มรสอาหาร 21 ชุด ที่ปรุงโดยเชฟชาวมาเลเซียที่เข้าร่วมการแข่งขันทำอาหาร นาซิ เลอมัก คณะกรรมการตัดสิน ได้แก่ Datuk Jojie Samuel เอกอัครราชฑูตมาเลเซียประจำประเทศไทย, Walter Lee เชฟชื่อดังชาวมาเลเซีย และ Scott Da Silva เชฟจาก Makan-Makan ซึ่งเป็นร้านอาหารมาเลเซียในไทย ส่วนแขกพิเศษอื่น ๆ ได้แก่ Datuk Bobby Tai ประธานชมรมมาเลเซียประเทศไทย และ Pauline Chua ผู้จัดการทั่วไปของโรงแรมอีสตินมักกะสันกรุงเทพฯ โดยการแข่งขันนี้ได้ริเริ่มโดย Dr Silva Kumar ชาวมาเลเซียที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย
โดยท่านเอกอัครราชฑูตมาเลเซียประจำประเทศไทยกล่าวว่า ‘Jaguh Nasi Lemak Challenge’ เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ริเริ่ม เพื่อส่งเสริมอาหารมาเลเซียในประเทศไทยผู้ชนะการแข่งขันได้แก่ Husna Nadzri ผู้ซื่งสามารถเอาชนะผู้ร่วมแข่งขันอีก 20 คน ส่วนรองอันดับหนึ่ง คือ Rosnidar Ibrahim และรองอันดับสอง คือ Noor Baizura Mohamad Mokhtar
แม้ว่าสถานการณ์ปัจจุบันนี้ จะทำให้การเดินทางของเราต้องหยุดชะงัก แต่เราก็ยังฝันถึงพรุ่งนี้ได้เสมอ มาเลเซียยินดีต้อนรับคุณ เมื่อการแพร่ระบาดสิ้นสุดลง ขอให้ทุกท่านดูแลสุขภาพ และเราหวังว่าท่านจะเดินทางไปมาเลเซียกันนะคะ
นาซิ เลอมัก แบบต้นตำหรับประกอบด้วย ข้าวที่หุงด้วยกะทิและใบเตย เสิร์ฟพร้อมพริกแซมบัล ปลากะตักทอดกรอบ ถั่วลิสง ไข่ต้ม และแตงกวาฝาน เป็นอาหารประจำชาติมาเลเซีย เนื่องจากเป็นอาหารหลักที่ทุกคนชื่นชอบ และสามารถแวะหารับประทานได้ง่ายในมาเลเซียทุก ๆ มื้อ ผู้เข้าร่วมแข่งขันทั้งหมด 21 คน ร่วมกับผู้ชม 124 คน ได้ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมนี้ ผู้ที่ชื่นชอบ นาซิ เลอมัก มีโอกาสได้ลิ้มรสอาหาร 21 ชุด ที่ปรุงโดยเชฟชาวมาเลเซียที่เข้าร่วมการแข่งขันทำอาหาร นาซิ เลอมัก คณะกรรมการตัดสิน ได้แก่ Datuk Jojie Samuel เอกอัครราชฑูตมาเลเซียประจำประเทศไทย, Walter Lee เชฟชื่อดังชาวมาเลเซีย และ Scott Da Silva เชฟจาก Makan-Makan ซึ่งเป็นร้านอาหารมาเลเซียในไทย ส่วนแขกพิเศษอื่น ๆ ได้แก่ Datuk Bobby Tai ประธานชมรมมาเลเซียประเทศไทย และ Pauline Chua ผู้จัดการทั่วไปของโรงแรมอีสตินมักกะสันกรุงเทพฯ โดยการแข่งขันนี้ได้ริเริ่มโดย Dr Silva Kumar ชาวมาเลเซียที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย
โดยท่านเอกอัครราชฑูตมาเลเซียประจำประเทศไทยกล่าวว่า ‘Jaguh Nasi Lemak Challenge’ เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ริเริ่ม เพื่อส่งเสริมอาหารมาเลเซียในประเทศไทยผู้ชนะการแข่งขันได้แก่ Husna Nadzri ผู้ซื่งสามารถเอาชนะผู้ร่วมแข่งขันอีก 20 คน ส่วนรองอันดับหนึ่ง คือ Rosnidar Ibrahim และรองอันดับสอง คือ Noor Baizura Mohamad Mokhtar
แม้ว่าสถานการณ์ปัจจุบันนี้ จะทำให้การเดินทางของเราต้องหยุดชะงัก แต่เราก็ยังฝันถึงพรุ่งนี้ได้เสมอ มาเลเซียยินดีต้อนรับคุณ เมื่อการแพร่ระบาดสิ้นสุดลง ขอให้ทุกท่านดูแลสุขภาพ และเราหวังว่าท่านจะเดินทางไปมาเลเซียกันนะคะ
ไม่มีความคิดเห็น