กกท.MOU อบจ.เชียงใหม่ ขานรับนโยบายพร้อมลงนามก่อนปีใหม่นี้
ที่ห้องประชุม ชั้น 4 อบจ.เชียงใหม่ นายพงษ์ภานุ เศวตรุนทร์ ที่ปรึกษาผู้ว่าการ กกท. เป็นประธานประชุมผ่านระบบ Zoom meeting คณะทำงานบริหารจัดการศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติ กกท.ภาค 5 ร่วมกับ คณะทำงานจาก อบจ.เชียงใหม่ ซึ่งมี น.พ.เพทาย เตโชฬาร รองนายก อบจ.เชียงใหม่ เป็นรองประธานคณะทำงาน ซึ่ง กกท.ได้แต่งตั้งคณะทำงานชุดนี้ รวมจำนวน 16 คน ตามมติที่ประชุมร่วมครั้งที่ผ่านมา
โดยประธานได้กล่าวว่า นโยบายของการกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นการพัฒนากีฬาประเทศ ตั้งแต่กีฬามวลชน กีฬาขั้นพื้นฐาน กีฬาเป็นเลิศ ธุรกิจกีฬา และอุตสาหกรรมกีฬา เพื่อสร้างรายได้ให้กับประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นจังหวัดแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งจะได้กำหนดรูปแบบความร่วมมือในการบริหารสนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี โดยกรอบความร่วมมือต้องมีความชัดเจน มีระยะเวลาและประโยชน์ ด้านงบประมาณ ต้องมีความชัดเจน งานที่ได้รับมอบหมายต้องมีโครงสร้าง ได้รับงบประมาณ โดยจะทำ MOU ระหว่าง กกท.กับ อบจ.เชียงใหม่ แผนงานต้องระบุรายละเอียด โดยกำหนดสิ่งปลูกสร้าง ให้มีรายได้จากประโยชน์ของการใช้สนามกีฬาในเชิงพาณิชย์
ทางด้าน น.พ.เพทาย เตโชฬาร รองนายก อบจ.ชม. ซึ่งเป็นรองประธานคณะทำงาน ได้ให้แนวคิดเกี่ยวกับการบริหารสนามกีฬาในเชิงธุรกิจ มีการปรับปรุงสถานที่ตามสถานีต่างๆ จัดให้มีไม้ดอกไม้ประดับ ตลาดนัดเพื่อสุขภาพ จำหน่ายอุปกรณ์กีฬา อาหารเพื่อสุขภาพ ตลอดจนยารักษาโรค สัปดาห์ละ 1-3 ครั้ง มีคนมาออกกำลังกายได้ใช้บริการร้านน้ำดื่ม ร้านกาแฟ ตลอดจนถึงการละเล่นกีฬาพื้นบ้าน ในแง่เสริมการท่องเที่ยว เพิ่มระบบรักษาความปลอดภัยและแสงสว่าง เพื่อบริหารสนามกีฬาในรูป Spots night เปิดได้ค่อนข้างดึก เพื่อรองรับผู้ที่มาใช้บริการ มีกีฬาทางน้ำในอ่างเก็บน้ำ อาทิเช่น จักรยานน้ำ มีการจ้างผู้ฝึกสอนกีฬาแบดมินตัน,เทควันโด,ฟุตบอลและตะกร้อ เพื่อบริหารจัดการสนามให้เกิดประโยชน์สูงสุดและมีรายได้ในเชิงธุรกิจต่อไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้ร่วมกันหารือเกี่ยวกับข้อกฎหมายของทั้ง 2 หน่วยงาน เพื่อบริหารจัดการสนามกีฬาในรูปแบบเชิงพาณิชย์ บูรณาการโครงการร่วมกัน มีแผนจัด Zoening ในการแบ่งพื้นที่ภายในสนามกีฬา มีแผนบริหารแบบ Business plan ตามแนวทางของ กกท.ซึ่งมีแผนงานอยู่แล้ว ตลอดจนการพิจารณาองค์ประกอบและแนวทางการลงนาม MOU ร่วมกันต่อไป
สุดท้ายประธานในที่ประชุม ได้กล่าวสรุปว่า " ในการดำเนินงานเพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าเพิ่มของสนามกีฬา โดยขอให้เสนอแผน Business plan เข้าที่ประชุมในครั้งต่อไป ซึ่งกำหนดไว้ในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนกันยายน 2564 โดยอาจจะมาร่วมประชุมที่จังหวัดเชียงใหม่ หากมีการเดินทางได้ตามปกติ หรือเป็นการประชุมแบบผ่านระบบ Zoom Meetting ทั้งนี้จะได้มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการคณะทำงาน ได้ประสานงานและแจ้งรายละเอียดต่อคณะทำงานต่อไป อนึ่ง สำหรับการลงนาม MOU ร่วมกันของทั้ง 2 หน่วยงาน คาดว่าจะทันก่อนปีใหม่พุทธศักราช 2565 อย่างแน่นอน"
ไม่มีความคิดเห็น