ซีเมนส์ โมบิลิตี้ ดึงนวัตกรรม “ดิจิทัล ซีเมนส์ โมบิลิตี้”ชูวิสัยทัศน์แห่งอนาคต “Moving Beyond” ยกระดับระบบขนส่งทางรางไทยเทียบชั้นโลก
กรุงเทพฯ 6 ตุลาคม 2564 - ซีเมนส์ โมบิลิตี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีขนส่งระบบราง ชูวิสัยทัศน์ผู้นำด้านขนส่งมวลขนระดับโลก Moving Beyond ที่จะทำให้ ซีเมนส์ โมบิลิตี้ เป็นพันธมิตรที่น่าเชื่อถือสำหรับโซลูชันคมนาคมขนส่งที่ยั่งยืนและไร้รอยต่อ ทั้งระบบรางและทางบกตั้งแต่กิโลเมตรแรกถึงกิโลเมตรสุดท้ายภายในปี 2568 ที่จะทำให้ทุกการเดินทางก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจสู่อนาคตและส่งมอบสุดยอดเทคโนโลยีขนส่งระบบรางและระบบควบคุมระดับสูง พร้อมสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ในกลุ่มธุรกิจ นอกจากนี้ ซีเมนส์ โมบิลิตี้ ยังมีนโยบายด้านการบริหารงานและดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน มีพันธกิจในการดำเนินงานเพื่อลดปริมาณคาร์บอนให้เป็นศูนย์ภายในปี 2573 โดยมุ่งหวังให้กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรมในด้านการดูแลสิ่งแวดล้อม เพื่อรองรับนโยบายของประเทศไทยในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลขนอัจฉริยะสู่การเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจชั้นนำของเอเชีย
มร.โธมัสค์ มาซัวร์ ประธานกรรมการฝ่ายบริหาร บริษัท ซีเมนส์ โมบิลิตี้ จำกัด เปิดเผยว่า “ซีเมนส์ โมบิลิตี้ ได้มีส่วนสำคัญอย่างมากในการเป็นฟันเฟืองหนึ่งเพื่อพัฒนาและขับเคลื่อนการเดินทางของคนไทยให้ง่ายและสะดวกขึ้น ตอบโจทย์ชีวิตคนในเมือง ลดปัญหาการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ ผ่านการพัฒนานวัตกรรมระบบขนส่งที่รองรับการเดินทางหลายประเภท และการพัฒนาโครงสร้างการขนส่งระบบรางของประเทศไทยให้ครอบคลุม โดยซีเมนส์ โมบิลิตี้ ยังได้ส่งมอบสุดยอดเทคโนโลยีด้านคมนาคมขนส่งระบบรางและระบบควบคุมระดับสูง ควบคู่มุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ในกลุ่มธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องกับนโนบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นส่งเสริมพัฒนาการขับเคลื่อนระบบขนส่งอัจฉริยะ (Smart Mobility) เพื่อสร้างระบบขนส่งที่มีความยืดหยุ่น เข้าถึงง่าย และสะดวกสบาย
ที่ผ่านมา “ซีเมนส์ โมบิลิตี้” มีประสบการณ์การบริหารจัดการโครงการต่าง ๆ ด้านระบบรางในประเทศไทยมากว่า 20 ปี ผ่านโครงการต่าง ๆ จำนวนมาก โดยการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย บริษัทฯ มีเป้าหมายเพื่อสร้างระบบคมนาคมขนส่งในประเทศที่เชื่อมโยงเข้าหากันอย่างไร้รอยต่อ ด้วยการนำสุดยอดเทคโนโลยีด้านคมนาคมขนส่งระบบรางและระบบควบคุมระดับสูงที่หลายเมืองชั้นนำในโลกใช้ ไม่ว่าจะเป็น รถไฟ VDE 8 ในประเทศเยอรมัน ที่ช่วยลดอัตราการเดินทางจากเบอร์ลินถึงมิวนิค จาก 6 ชั่วโมง เหลือเพียง 4 ชั่วโมง รถไฟฟ้า Velaro RUS ในประเทศรัสเซียที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานในสภาพอากาศที่รุนแรงของรัสเซีย พร้อมวิ่งระหว่างเมืองเซนส์ปีเตอร์เบิร์กถึงมอสโคระยะทาง 650 กิโลเมตรด้วยเวลาเดินทางเพียง 3.5 ชั่วโมง หรือแม้กระทั่งรถไฟ Desiro City ในเมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ 115 ขบวน เป็นจำนวนตู้ทั้งหมด 1,140 ตู้ ฯลฯ เพื่อยกระดับการเดินทางและพัฒนาขับเคลื่อนให้ทุกการเดินทางของคนไทยง่ายขึ้น สะดวกขึ้นและปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับนโนบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นส่งเสริมและพัฒนาการขับเคลื่อนระบบขนส่งอัจฉริยะ (Smart Mobility) โดย ซีเมนส์ โมบิลิตี้ ได้ดำเนินการพัฒนาโครงข่ายการขนส่งระบบรางในประเทศไทยในหลากหลายโครงการ อาทิ
1. รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว ถือเป็นหนึ่งเรื่องราวความสำเร็จของซีเมนส์ โมบิลิตี้ ในฐานะที่เป็นการขนส่งแบบครบวงจรแห่งแรกที่ประสบความสำเร็จในประเทศไทย โดยซีเมนส์ โมบิลิตี้ ได้ปรับปรุงระบบของ BTS ให้ทันสมัยโดยใช้เทคโนโลยีควบคุมระบบรางอัตโนมัติ ตั้งแต่การเปิดให้ใช้บริการครั้งแรกเมื่อ 20 ปีก่อนจนถึงปัจจุบัน ประกอบไปด้วยสถานีทั้งหมด 59 สถานี รวม 2 เส้นทาง คือ สายสุขุมวิท ให้บริการจากเคหะสมุทรปราการ ถึงคูคต และสายสีลม
2. MRT สายสีน้ำเงิน (สายเฉลิมรัชมงคล) ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของ ซีเมนส์ โมบิลิตี้ที่ช่วยเชื่อมต่อการคมนาคมช่วยทำให้ชีวิตของคนไทยสะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันรวมสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายทั้งหมดจะมี 38 สถานี ประกอบไปด้วยช่วงหัวลำโพง - บางซื่อ ช่วงหัวลำโพง - บางแค ช่วงบางซื่อ - ท่าพระ ซึ่งเป็นโครงสร้างทางวิ่งผสมทั้งใต้ดินและยกระดับ
3. ทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและสถานีขนส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมือง (Suvarnabhumi Airport Rail Link and City Air Terminal)
4. โครงการรถไฟทางคู่ “จิระ-ขอนแก่น” ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ทางซีเมนส์ โมบิลิตี้ ได้เข้ามาดูแลงานออกแบบและติดตั้ง ระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม ระยะทาง 187 กิโลเมตร 26 สถานีโดยใครงการนี้จะเป็นรากฐานสำคัญในการขยายโครงข่ายสายทางคู่ให้ครอบคลุมทั่วภาคอีสาน
5. ระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (Automated People Mover : APM) ซึ่งจะพร้อมใช้บริการในปี 2565 นี้ ถือเป็นรถไฟฟ้ารางเบาล้อยางไร้คนขับคันแรกของประเทศไทยที่ผลิตโดยซีเมนส์ โมบิลิตี้ ที่นำมาวิ่งใต้อุโมงค์เพื่อเชื่อมระหว่างอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเดิมกับอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 หรืออาคารแซทเทิลไลท์ 1 (แซทเทิลไลท์ วัน)
1. รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว ถือเป็นหนึ่งเรื่องราวความสำเร็จของซีเมนส์ โมบิลิตี้ ในฐานะที่เป็นการขนส่งแบบครบวงจรแห่งแรกที่ประสบความสำเร็จในประเทศไทย โดยซีเมนส์ โมบิลิตี้ ได้ปรับปรุงระบบของ BTS ให้ทันสมัยโดยใช้เทคโนโลยีควบคุมระบบรางอัตโนมัติ ตั้งแต่การเปิดให้ใช้บริการครั้งแรกเมื่อ 20 ปีก่อนจนถึงปัจจุบัน ประกอบไปด้วยสถานีทั้งหมด 59 สถานี รวม 2 เส้นทาง คือ สายสุขุมวิท ให้บริการจากเคหะสมุทรปราการ ถึงคูคต และสายสีลม
2. MRT สายสีน้ำเงิน (สายเฉลิมรัชมงคล) ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของ ซีเมนส์ โมบิลิตี้ที่ช่วยเชื่อมต่อการคมนาคมช่วยทำให้ชีวิตของคนไทยสะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันรวมสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายทั้งหมดจะมี 38 สถานี ประกอบไปด้วยช่วงหัวลำโพง - บางซื่อ ช่วงหัวลำโพง - บางแค ช่วงบางซื่อ - ท่าพระ ซึ่งเป็นโครงสร้างทางวิ่งผสมทั้งใต้ดินและยกระดับ
3. ทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและสถานีขนส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมือง (Suvarnabhumi Airport Rail Link and City Air Terminal)
4. โครงการรถไฟทางคู่ “จิระ-ขอนแก่น” ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ทางซีเมนส์ โมบิลิตี้ ได้เข้ามาดูแลงานออกแบบและติดตั้ง ระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม ระยะทาง 187 กิโลเมตร 26 สถานีโดยใครงการนี้จะเป็นรากฐานสำคัญในการขยายโครงข่ายสายทางคู่ให้ครอบคลุมทั่วภาคอีสาน
5. ระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (Automated People Mover : APM) ซึ่งจะพร้อมใช้บริการในปี 2565 นี้ ถือเป็นรถไฟฟ้ารางเบาล้อยางไร้คนขับคันแรกของประเทศไทยที่ผลิตโดยซีเมนส์ โมบิลิตี้ ที่นำมาวิ่งใต้อุโมงค์เพื่อเชื่อมระหว่างอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเดิมกับอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 หรืออาคารแซทเทิลไลท์ 1 (แซทเทิลไลท์ วัน)
นอกจากนี้ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมาที่ซีเมนส์ โมบิลิตี้ ยังได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการศึกษาโดยได้ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา ตั้งแต่ปี 2556 จัดทำโครงการแลกเปลี่ยนความรู้ หรือ Dual Education Program ในการยกระดับและพัฒนาทักษะวิชาชีพของนักศึกษาอาชีวศึกษาในหลากหลายวิทยาลัยและสร้างบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อรองรับตำแหน่งงานในอนาคต ตลอดจนยังได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในการจัดทำหลักสูตรเกี่ยวกับรถไฟและระบบขนส่งทางราง โดยจัดส่งผู้เชี่ยวชาญเข้าร่วมบรรยายให้ความรู้แก่นักศึกษาในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในประเทศ นอกจากนี้ซีเมนส์ โมบิลิตี้ ยังได้ร่วมจัดทำโครงการพัฒนาความร่วมมือในการพัฒนาระบบขนส่งทางราง ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างประเทศไทยกับเยอรมนีเพื่อยกระดับการขนส่งทางรางของประเทศไทยอีกด้วย
“ทั้งนี้ ซีเมนส์ โมบิลิตี้ เป็น ผู้นำธุรกิจระบบคมนาคมด้านการขนส่งมวลขนและขนส่งระบบรางของโลกสัญชาติเยอรมัน มีผลิตภัณฑ์และบริการ ประกอบไปด้วย โครงสร้างการขนส่งระบบราง (Rail Infrastructure) โซลูชันระบบรถไฟแบบเบ็ดเสร็จ (Turnkey Project) ตู้รถไฟ (Rolling Stock) ระบบการจัดการจราจรอัจฉริยะ (Intelligence Traffic Systems) โซลูชันการขนส่งแบบไร้รอยต่อ (Intermodal Solutions) และการซ่อมบำรุงระบบราง (Customer Services) โดยในปี 2564 เป็นต้นไป ซีเมนส์ โมบิลิตี้ มุ่งมั่นที่จะพัฒนาระบบรถไฟ และระบบรางให้อัจฉริยะที่สมบูรณ์แบบด้วยระบบ “ดิจิทัล ซีเมนส์ โมบิลิตี้” ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีนโยบายด้านการบริหารงานและดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยมีพันธกิจในการดำเนินงานเพื่อลดปริมาณคาร์บอนให้เป็นศูนย์ให้ได้มากที่สุดและมุ่งหวังให้กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรม ซึ่งทั้งหมดสอดคล้องกับวิสัยทัศน์แห่งอนาคต Moving Beyond หรือการก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง และเพื่อให้การดำเนินงานของบริษัทสอดรับกับโลกเทคโนโลยีสมัยใหม่” มร.โธมัสค์ กล่าวทิ้งท้าย
ไม่มีความคิดเห็น