แม็คโคร ขยับแนวรุกธุรกิจครึ่งปีหลัง รับการท่องเที่ยวฟื้นตัวเร่งขับเคลื่อน 3 ยุทธศาสตร์ สู่ผู้นำค้าส่งค้าปลีกของเอเชีย
แม็คโคร เร่งขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ ดันกลุ่มธุรกิจสู่ผู้นำค้าส่งค้าปลีกแห่งเอเชีย ขานรับแนวโน้มธุรกิจค้าปลีกครึ่งปีหลังฟื้นตัว ทยอยเปิดสาขาใหม่อย่างต่อเนื่อง เดินหน้าพัฒนา Omni Channel เชื่อมต่อออนไลน์สู่ออฟไลน์ตอบโจทย์ธุรกิจยุคดิจิทัล พร้อมขยายผลแพลตฟอร์มแห่งโอกาส สร้างการเติบโตให้เอสเอ็มอี สู่ตลาดต่างประเทศ
นายธานินทร์ บูรณมานิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจแม็คโคร กล่าวว่า แนวโน้มธุรกิจค้าส่งค้าปลีกในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าจะกลับมาฟื้นตัว ตามข้อมูลจากศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ระบุว่า ภาพรวมมูลค่าธุรกิจค้าปลีกในปี 2565 จะกลับมาขยายตัวอยู่ที่ 11% จากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 และการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวที่ส่งผลต่อธุรกิจร้านอาหาร โรงแรม และจัดเลี้ยง (HoReCa) ขณะเดียวกันช่องทางการขายผ่านออนไลน์ยังคงเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งเป็นไปตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป
จากทิศทางการฟื้นตัวดังกล่าว กลุ่มธุรกิจแม็คโครจึงเร่งขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ เพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายการเป็นผู้นำธุรกิจค้าส่งค้าปลีกของเอเชีย โดยได้ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์สำคัญ 3 ด้าน ประกอบด้วย การขยายสาขาทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง รองรับการขยายตัวของชุมชนและธุรกิจร้านอาหารที่กำลังกลับมาฟื้นตัว ส่วนในต่างประเทศมุ่งเน้นไปที่ภูมิภาคอาเซียนเป็นหลัก ปัจจุบัน แม็คโครมีสาขาในต่างประเทศรวม 7 สาขา ใน กัมพูชา, เมียนมา, อินเดีย และ จีน
สำหรับยุทธศาสตร์ที่สอง คือการพัฒนาช่องทางการจำหน่ายในรูปแบบ Omni Channel เชื่อมโยงระหว่างออนไลน์สู่ออฟไลน์ (O2O) อย่างครบวงจร ผ่านเว็บไซต์ แอปพลิเคชั่น MakroClick และ maknet ซึ่งเป็น B2B Marketplace หรือตลาดค้าส่งออนไลน์ที่ครบวงจรสำหรับผู้ประกอบการ เพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคดิจิทัล โดยเพิ่มทีมงานคนรุ่นใหม่ เข้ามาช่วยพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลให้ตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้า และผู้ประกอบการรายย่อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดต้นทุนการดำเนินธุรกิจและสร้างผลกำไรมากขึ้น ซึ่งข้อมูลล่าสุดเมื่อสิ้นปี 2564 แม็คโครมีสัดส่วนยอดขายผ่านช่องทาง Omni Channel ถึง 12% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่มีสัดส่วนเพียง 7.5%และยุทธศาสตร์ที่ 3 คือการพัฒนาแพลตฟอร์มแห่งโอกาส เพื่อเอสเอ็มอีและเกษตรกรรายย่อย ซึ่งถือเป็นเป้าหมายสำคัญในการดำเนินธุรกิจ เพื่อสร้างความยั่งยืน ด้วยการพาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยให้แข็งแกร่ง เติบโตมีรายได้ที่มั่นคง โดยสนับสนุนตั้งแต่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ สร้างแบรนด์ให้เป็นที่ยอมรับ ตลอดจนเป็นช่องทางจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ปัจจุบันแม็คโครสนับสนุนเอสเอ็มอีและเกษตรกรกว่า 20,000 ราย และส่งออกสินค้าเอสเอ็มอีไทยไปสู่สาขาแม็คโครในต่างประเทศแล้วกว่า 300 รายการ
ไม่มีความคิดเห็น