Breaking News

เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟชี้ “การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน - อัตราเติบโตเมืองอาเซียน”ดันดีมานด์ลวด เคเบิล ท่อ และอุตฯโลหะ โตต่อเนื่อง พร้อมดึงศักยภาพเมืองแสดงสินค้านัมเบอร์วันจัดรวด 4 งานใหญ่ เพิ่มมูลค่าอุตฯด้านก่อสร้าง

· คาดดีมานด์เหล็กกล้าสำเร็จรูปทั่วโลกเติบโตสูงถึง 1.77 พันล้านตันภายในปี 65 เผยการบริโภคเหล็กกล้า
ในภูมิภาคเอเชียในปัจจุบันรวมกว่า 73.3 %
· ครั้งแรกของอาเซียนกับสองงานใหญ่ “GIFA – METEC 2022” เวทีผนึกความแกร่งอุตฯ โลหะของภูมิภาค5 – 7 ต.ค.นี้ ที่ไบเทค บางนา


กรุงเทพฯ 24 สิงหาคม 2565 -
บริษัท เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย เผยการบริโภคเหล็กกล้าภายในภูมิภาคเอเชีย ในปัจจุบันรวมกว่า 73.3 % คาดอุปสงค์การบริโภคเหล็กกล้าสำเร็จรูปทั่วโลกเติบโตสูงกว่า 1.77 พันล้านตันดันความต้องการใช้ ลวด เคเบิล ท่อ ท่อร้อยสาย และโลหะ เพิ่มขึ้น พร้อมชี้โอกาสการเติบโตในอุตสาหกรรมลวดและสายเคเบิลเฉลี่ยสะสมต่อปีที่ 6.1% ภายในอีก 4 ปีข้างหน้า และจะมีการลงทุนในด้านการพัฒนาระบบระบายน้ำและระบบบำบัดน้ำเสียซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นปัจจัยสำคัญ นอกจากนี้ เพื่อให้เห็นถึงความก้าวหน้าและโอกาสในการสร้างมูลค่าในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของอาเซียนจึงได้เตรียมจัด 4 งานใหญ่ ได้แก่ 1.International Wire & Cable Trade Fair for Southeast Asia 2.International Tube & Pipe Trade Fair for Southeast Asia 3. International Foundry Trade Fair and Forum for Southeast Asia (GIFA) และ 4. International Metallurgical Trade Fair and Forum for Southeast Asia (METEC) หรือมหกรรมเทคโนโลยีการผลิตลวด เคเบิล ท่อ ท่อร้อยสายอุตสาหกรรมหล่อโลหะ และโลหะการของอาเซียน ซึ่งจะถูกจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5 - 7 ตุลาคม 2565 ณ ไบเทค บางนา

นายเกอร์นอท ริงลิ่ง กรรมการผู้จัดการ เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย กล่าวว่า จากการศึกษาการเติบโตทางอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนพบว่า การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานถือเป็นแม่เหล็กที่สำคัญในการเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจ ซึ่งปัจจุบันจะเห็นได้ว่าหลาย ๆ ประเทศมีการลงทุนหลายโครงการทั้งโดยภาครัฐ ความร่วมมือระหว่างรัฐและเอกชน มีการก่อสร้างหรือพัฒนาส่วนต่าง ๆ ให้มีความใหม่ สมบูรณ์แบบและพร้อมใช้ในช่วงที่เริ่มมีการเปิดประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการคมนาคม การขนส่ง พื้นที่เพื่อการลงทุนอุตสาหกรรม รวมถึงการใช้พลังงานสะอาด และรถอีวี อีกทั้งยังมีการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างประเทศสมาชิก ที่จะร่วมกันยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน
ในภูมิภาคให้มีความทั่วถึงมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย จึงเล็งเห็นถึงความต้องการใช้ทรัพยากรต่าง ๆ ที่มีประสิทธิภาพและพร้อมขับเคลื่อนโครงการต่าง ๆ ให้บรรลุเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วขึ้น จึงได้เตรียมจัด 4 งานใหญ่ในประเทศไทย ได้แก่ 1.International Wire & Cable Trade Fair for Southeast Asia 2.International Tube & Pipe Trade Fair for Southeast Asia 3. International Foundry Trade Fair and Forum for Southeast Asia (GIFA) และ 4. International Metallurgical Trade Fair and Forum for Southeast Asia (METEC) มหกรรมเทคโนโลยีการผลิตลวด เคเบิล ท่อ ท่อร้อยสาย อุตสาหกรรมหล่อโลหะ และโลหะการ ในประเทศไทย ซึ่งจะผนึกพันธมิตรและรวบรวมผู้แสดงสินค้ากว่า 200 รายจากกว่า 30 ประเทศทั่วโลก ที่ต้องการขยายธุรกิจสู่ตลาดเอเชีย - อาเซียน มาร่วมแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมและการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเป็นทางเลือกที่สำคัญสำหรับกลุ่มภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชนที่กำลังดำเนินงานหรือมีแผนลงทุนเมกะโปรเจกต์ให้ได้เรียนรู้เทคโนโลยีการก่อสร้างใหม่ ๆ จากบริษัทชั้นนำทั่วโลก อาทิ เยอรมนี อิตาลี อังกฤษ สหรัฐอเมริกา ฯลฯ พร้อมตอกย้ำการเป็นศูนย์กลางด้านการจัดงานแสดงสินค้าของไทยที่ในปัจจุบันถือว่าเป็นอันดับ 1 ของอาเซียน นอกจากนี้ มหกรรมดังกล่าวยังจะช่วยให้ภาคการลงทุนจากต่างประเทศได้เห็นถึงโครงการต่าง ๆ ในประเทศไทย เช่น การก่อสร้างรถไฟทางคู่สาย โครงการพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี การก่อสร้างมอเตอร์เวย์เพื่อเชื่อมต่อและรองรับการขยายตัวของเมือง การพัฒนาท่าเรือ - นิคมอุตสาหกรรม และโครงการอื่น ๆ ที่กำลังแล้วเสร็จ ซึ่งจะเป็นจุดเชื่อมต่อในการเข้ามาลงทุนในประเทศไทย โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานทั้งจากไทยและต่างประเทศไม่น้อยกว่า 6,500 คน

นายเกอร์นอท กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับปัจจุบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นลำดับที่ 7 ของโลก มีความรุดหน้าทางเศรษฐกิจที่รวดเร็ว และภายในปี 2030 จะมีสัดส่วนความเป็นเมืองที่สูงถึง 45% ดีมานด์ในด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับลวด เคเบิล ท่อ ท่อร้อยสาย อุตสาหกรรมหล่อโลหะ และโลหะการจึงเติบโตตามไปด้วย ทั้งนี้ มูลค่าตลาดรวมของลวดและสายเคเบิลในประเทศไทยในปัจจุบันมีจำนวนรวมกว่า 55,000 ล้านบาท โดยคาดการณ์ว่าจะมีอัตราเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปีที่ 6.1% ภายในอีก 4 ปีข้างหน้า โดยมีการลงทุนในอุตสาหกรรมที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นปัจจัยสำคัญ คือ การลงทุนที่เพิ่มขึ้นเพื่อการพัฒนาระบบระบายน้ำ และระบบบำบัดน้ำเสีย ซึ่งคาดการณ์ว่ามูลค่าของตลาดท่อในระดับอาเซียนจะสามารถเติบโตสูงถึง 24,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2028
“ด้วยประวัติที่แข็งแกร่งของงาน Wire and Tube Southeast Asia ที่มีสัดส่วนของผู้เข้าร่วมงานในระดับนานาชาติที่สูงมาก งาน GIFA และ METEC Southeast Asia จะเป็นการเพิ่มความพยายามของเราในการให้บริการห่วงโซ่คุณค่าของอุตสาหกรรมหล่อโลหะและโลหะการที่ครอบคลุมและกว้างขวางมากขึ้น โดยการนำผู้ผลิตระดับโลกสู่เวทีธุรกิจหนึ่งเดียวในประเทศไทย ซึ่งการจัดงานดังกล่าวจะเป็นการรวมตัวผู้นำในด้านการผลิต และผู้ให้บริการที่จะร่วมกันนำเสนอแนวทางในการยกระดับอุตสาหกรรมโลหะทั้งในการลดต้นทุน การลดการนำเข้า กรรมวิธีในการผลิตรวมถึงการผลักดันการใช้โลหะที่มีคุณภาพสูงภายในภูมิภาคเพื่อลดการนำเข้าจากภายนอก นอกจากนี้ ยังเป็นเวทีสำคัญที่จะทำให้เกิดการแบ่งปันแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์โลหะคุณภาพสูง ให้สอดรับกับอุตสาหกรรมปลายทางอื่น ๆเช่น ยานยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า เพื่อหลีกหนีจากการแข่งขันรูปแบบเดิมดังเช่นในอดีต” นายเกอร์นอท กล่าวทิ้งท้าย
ด้าน นายพีระเดช ตรงกิจไพศาล นายกสมาคมอุตสาหกรรมหล่อโลหะไทย กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศญี่ปุ่นและจีนเริ่มกลับมาลงทุนด้านอุตสาหกรรมหล่อโลหะในประเทศแถบกลุ่มเอเชียตะวันออกและประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้อุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนของบ้านเรามีโอกาสเติบโตเพิ่มมากขึ้น แม้อุตสาหกรรมหล่อโลหะเป็นธุรกิจ
ที่มีมาช้านาน แต่ปัจจุบันยังคงได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจากนักธุรกิจรุ่นใหม่เพราะงานหล่อถือเป็นงานศิลปะซึ่งมีทฤษฎี 5M เป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินธุรกิจในวงการอุตสาหกรรม ได้แก่ Money คือการมีแหล่งเงินทุนที่เอื้อต่อการใช้งาน Machinery คือการเสาะหาและพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องจักรให้ทันสมัยอยู่เสมอ Material คือการทำชิ้นส่วนประกอบ Management คือระบบการบริหารจัดการต้องมีการเปลี่ยนและพัฒนาอยู่ตลอดเวลา และ Man คือกำลังคน “คนเป็นองค์ความรู้ของบริษัทที่มีความสำคัญมาก เพราะต้องใช้เวลาในการเรียนรู้และสะสมประสบการณ์ 20 – 30 ปีถึงจะประสบความสำเร็จ แต่ปัจจุบันกลับถูกจำกัดให้คนทำงานวัย 60 ปี ต้องเกษียณ แต่ถ้าองค์กรสามารถรักษาคนที่มีองค์ความรู้ให้มาช่วยกันสร้างและถ่ายทอดความรู้ให้กับคนรุ่นใหม่ได้ จะเกิดการผสผสานระหว่างประสบการณ์องค์ความรู้ และความคิดสร้างสรรค์ ของคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ ที่จะทำให้อุตสาหกรรมหล่อโลหะเกิดการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยและความต้องการของภาคอุตสาหกรรมได้มากขึ้น”
สำหรับการจัดมหกรรมเทคโนโลยีการผลิตลวด เคเบิล ท่อ ท่อร้อยสาย อุตสาหกรรมหล่อโลหะ และโลหะการ ทั้ง 4 งาน จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-7 ตุลาคม 2565 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ซึงจะจัดแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่จากบริษัทชั้นนำทั่วโลก พร้อมด้วยเวทีเสวนาอีกมากมาย โดยสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.gifa-southeastasia.com , www.metec-southeastasia.com , www.tube-southeastasia.com และ www.wire-southeastasia.com

ไม่มีความคิดเห็น