Breaking News

ดีพร้อม เผยช่างเทคนิค-อาชีพเฉพาะทางขาดแคลน ชูโครงการอาชีพดีพร้อม เฟส 2เตรียมปั้นช่างชุมชน ป้อนตลาดแรงงาน

กรุงเทพฯ 14 ธันวาคม 2565 – กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) เดินหน้า
ต่อยอดความสำเร็จโครงการอาชีพดีพร้อม เฟส 2 จัดอบรมเสริมสร้างทักษะและความรู้ให้กับชุมชน
เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการย้ายถิ่นฐานกลับภูมิลำเนาให้มีความรู้ในการ
ต่อยอดอาชีพ พร้อมสร้างช่างสำหรับแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานในชุมชน คาดผู้เข้าร่วมกว่า 350,000 คน
นายใบน้อย สุวรรณชาตรี อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ “ดีพร้อม” เปิดเผยว่า ในช่วง
ที่ผ่านมา สังคมไทยได้รับผลกระทบจากสภาวะทางเศรษฐกิจเป็นจำนวนมาก โดยสถิติล่าสุดของสำนักงาน
สถิติแห่งชาติที่จัดทำขึ้นปีละครั้ง พบว่ามีผู้ย้ายถิ่นฐานทั่วประเทศรวมกว่า 6.67 แสนคน ซึ่งกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ “ดีพร้อม” (DIPROM) เล็งเห็นถึงความสำคัญในการสร้างโอกาสและพัฒนาคนกลุ่มนี้
เป็นอย่างมาก จึงได้ดำเนินโครงการ “อาชีพดีพร้อม” ผ่านศูนย์ดีพร้อมเซ็นเตอร์ทั้ง 11 แห่ง และในส่วนกลางโดยประกอบด้วย 4 หลักสูตร ซึ่งในเฟส 1 ได้จัดอบรมหลักสูตรที่ 1 เป็นการพัฒนาทักษะอาชีพพื้นฐานด้านการผลิตไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยการอบรมเน้นการพัฒนาทักษะอาชีพพื้นฐานด้านการผลิต อาทิ การผลิตของใช้ในครัวเรือนต่าง ๆ อาทิ น้ำยาล้างจาน สบู่เหลว ของชำร่วย การเพ้นท์กระเป๋า มีผู้ที่ผ่านการอบรมแล้วทั้งสิ้น จำนวน 350,000 คน
สำหรับในเฟส 2 ที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ ดีพร้อม มุ่งพัฒนาทักษะที่จำเป็นในการ
ต่อยอดอาชีพ โดยประกอบด้วยหลักสูตรที่ 2 การพัฒนาทักษะอาชีพพื้นฐานด้านการบริการที่เน้นการนำไปประกอบอาชีพเสริม เพื่อเพิ่มรายได้พัฒนาให้เกิดทักษะความเชี่ยวชาญมากขึ้นในกลุ่มอาชีพเฉพาะทาง งานช่างอาทิ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซ่อมรถ ซ่อมแอร์ และกลุ่มอาชีพบริการ เช่น เชฟ ช่างเย็บผ้า ช่างตัดผม เป็นต้นซึ่งผู้ที่จบหลักสูตรนี้จะสามารถนำไปประกอบอาชีพหารายได้ ในส่วนหลักสูตรที่ 3 การพัฒนาด้านผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ เป็นการถ่ายทอดความรู้ด้านการสร้างแบรนด์สินค้าจากภายในท้องถิ่น สร้างอัตลักษณ์ให้มีความโดดเด่น ตรงกับความต้องการของตลาด และมีการสอนเรื่องการจัดส่งกระจายสินค้าให้เป็นระบบจะเห็นได้ว่าหลักสูตรที่ 3 นี้ เป็นการเตรียมความพร้อมสู่การพัฒนาด้านความคิดสร้างสรรค์ที่จะต่อยอดผลิตภัณฑ์ให้มีมูลค่ามากขึ้น และหลักสูตรที่ 4 การพัฒนาต่อยอดทักษะที่จำเป็นต่อการประกอบธุรกิจที่จะเป็นการอบรมเพื่อสร้างความรู้เรื่องการจัดการเงินในการประกอบธุรกิจ อาทิ การทำแผนธุรกิจ การจัดทำบัญชี การตลาดการบริหารจัดการเงินให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งเป็นการเตรียมความรู้ที่จำเป็นในการประกอบธุรกิจของผู้ประกอบการใหม่ให้มีความพร้อมมากที่สุดก่อนลงมือทำกิจการโดยในเฟส 2 ดีพร้อมตั้งเป้าหมายว่าจะมีผู้สนใจเข้าร่วมทั้งสิ้นรวม 350,000 คน และเชื่อมั่นว่า
การพัฒนาทักษะให้กับคนจะเป็นการสร้างพื้นฐานที่ดีและจะนำมาซึ่งความสำเร็จสู่ผู้ประกอบการและชุมชน
ส่งผลให้ราคาจำหน่ายสูงมากขึ้นกำไรก็จะมากขึ้น ผลประโยชน์นี้ไม่ได้ตกอยู่กับตัวผู้อบรมอย่างเดียว
แต่สามารถสะท้อนผลความเจริญต่อไปได้ในระดับประเทศ นายใบน้อย กล่าวทิ้งท้าย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โทรศัพท์ 0 2430
6865-66 ต่อ 4 หรือ ติดตามข้อมูลข่าวสารและความเคลื่อนไหวได้ที่
www.facebook.com/dipromindustry หรือ www.diprom.go.th

ไม่มีความคิดเห็น