มาคาเลียส เผยผลประกอบการปี 65กวาดรายได้ตลาดท่องเที่ยวไทยกว่า 60 ล้านบาท
มาคาเลียส (MAKALIUS) แหล่งรวมอี-วอเชอร์ ที่พัก ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว อันดับ 1 ของประเทศไทย เผยผลประกอบการปี 2565 กวาดรายได้ตลาดท่องเที่ยวไทยกว่า 60 ล้านบาท พร้อมเผยคนไทยเที่ยวเยอะขึ้น ปัจจัยหลักมาจากแนวคิด Work Life Balance ประกอบกับนโยบายหลายองค์กรให้พนักงานทำงานได้ทุกที ตั้งเป้าปีหน้าดันมาคาเลียสขึ้นแท่นแพลตฟอร์มแหล่งรวมเรื่องท่องเที่ยวสัญญาติไทยอันดับ 1 ด้วยกลยุทธ์การตลาด “Customize & Quality Traveler” ชูแนวคิดการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพและเตรียมเปิดเส้นทางต่างประเทศเอาใจลูกค้า
นางสาวณีรนุช ไตรจักร์วนิช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มาคาเลียส ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “ในปี 2565 ภาพรวมธุรกิจของมาคาเลียสมีอัตราการเติบโตที่น่าพอใจ โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 60 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 15% อันเป็นผลมาจากสถานการณ์การท่องเที่ยวทั่วโลกเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติ รวมถึงประเทศไทยที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวทยอยเดินทางเข้ามาเพิ่มมากขึ้น ทั้งกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวเอเชีย อย่างประเทศจีนและเวียดนาม นักท่องเที่ยวชาวยุโรป ทำให้หลายอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ทั้ง บริษัททัวร์ โรงแรมที่พัก ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว กลับมาฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัด ส่วนภาพรวมของนักท่องเที่ยวชาวไทยเริ่มออกเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่ต้นปีที่ผ่าน ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงนิยมเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศเป็นหลัก
จากการศึกษาข้อมูลในฐานระบบของมาคาเลียส พบปัจจัยบวกที่น่าสนใจ คือ นักท่องเที่ยวชาวไทย มีการเดินทางท่องเที่ยวบ่อยขึ้น โดยมีอัตราเฉลี่ย 1-2 ครั้งต่อเดือน ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนเริ่มเปลี่ยนไปหันมาให้ความสำคัญกับการปรับสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัว (Work Life Balance) มากขึ้น เพื่อลดผลกระทบจากการทำงานหนักเกินไป ประกอบกับหลายองค์กรเริ่มนำแนวคิดการทำงานสามารถทำได้ทุกที่ (Work From Anywhere) มาปรับใช้ในการบริหารบุคลากร เพื่อส่งเสริมสุขภาพด้านร่างกายและจิตใจของพนักงาน
สำหรับแผนการตลาดในปี 2566 บริษัทฯ จะยังคงนำกลยุทธ์ “Customize & Quality Traveler” มาปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจโดยแบ่งออกเป็น 3 แนวทางคือ Product การขยายรูปแบบของผลิตภัณฑ์หรือแพคเกจด้านการท่องเที่ยวให้ครอบคลุมกับความต้องการของผู้บริโภคและสถานการณ์การท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไป จากเดิมมาคาเลียสจะเน้นการให้บริการด้านโรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร เรือสำราญ เฉพาะภายในประเทศ ซึ่งในปี 2566 จะเริ่มทำการขยายเส้นทางท่องเที่ยวไปยังต่างประเทศ อย่างประเทศญี่ปุ่น เกาหลี มัลดีฟส์ เป็นต้น และยังคงเอกลักษณ์ด้านบริการในแบบฉบับของมาคาเลียสที่รวมทุกบริการในแพลตฟอร์มเดียว คือ ลูกค้าสามารถดีไซน์แพคเกจได้ตามความต้องการ อาทิ เลือกซื้อเฉพาะที่พัก หรือเลือกซื้อที่พักรวมบัตรท่องเที่ยวสถานที่สำคัญ หรือรวมอาหารมื้อพิเศษ เป็นต้น
แนวทางต่อมาคือเรื่องของ Platform นอกเหนือจากแพลตฟอร์มออนไลน์ในรูปแบบเว็บไซต์และโซเชียลมิเดียแล้ว ทางบริษัทฯ ได้เตรียมลงทุนในการทำแอพลิเคชั่น “Makalius” เพื่ออำนวยความสะดวกต่อการใช้งานของลูกค้าอีกทั้งเพื่อเพิ่มศักยภาพทางการเข้าถึงและการจัดจำหน่ายให้เพิ่มมากขึ้น และสุดท้ายคือ Partner หรือพันธมิตร คือการให้ความสำคัญกับมาตรการการคัดเลือกพันธมิตรเข้าระบบอย่างเข้มงวด เพื่อมุ่งสร้างความน่าเชื่อถือให้กับกลุ่มลูกค้า โดยทางบริษัทฯ จะทำการพิจารณาพันธมิตรใหม่ด้วยการตรวจสอบอย่างละเอียดทั้งแผนการตลาด ระบบบัญชี อายุการเปิดให้บริการ เป็นต้น
นางสาวณีรนุช กล่าวต่อว่า “สำหรับภาพรวมของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในปี 2566 อาจเรียกได้ว่าเป็นช่วงกลับเข้าสู่ภาวะปกติของการท่องเที่ยวก่อนเกิดวิกฤติการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตลาดท่องเที่ยวจะกลับมาเติบโตได้แบบ 100% โดยมาคาเลียสคาดการณ์จากสถานการณ์ดังกล่าวประกอบกับการเดินหน้าตามแผนกลยุทธ์ทางการตลาดที่ตั้งไว้จะสามารถผลักดันให้มาคาเลียสขึ้นแท่นเป็นแพลตฟอร์มด้านการท่องเที่ยวสัญชาติไทยอันดับ 1 ของตลาด และคาดว่าจะสามารถสร้างรายให้โตขึ้นอีกกว่า 50% หรือประมาณ 100 ล้านบาท”
จากการศึกษาข้อมูลในฐานระบบของมาคาเลียส พบปัจจัยบวกที่น่าสนใจ คือ นักท่องเที่ยวชาวไทย มีการเดินทางท่องเที่ยวบ่อยขึ้น โดยมีอัตราเฉลี่ย 1-2 ครั้งต่อเดือน ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนเริ่มเปลี่ยนไปหันมาให้ความสำคัญกับการปรับสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัว (Work Life Balance) มากขึ้น เพื่อลดผลกระทบจากการทำงานหนักเกินไป ประกอบกับหลายองค์กรเริ่มนำแนวคิดการทำงานสามารถทำได้ทุกที่ (Work From Anywhere) มาปรับใช้ในการบริหารบุคลากร เพื่อส่งเสริมสุขภาพด้านร่างกายและจิตใจของพนักงาน
สำหรับแผนการตลาดในปี 2566 บริษัทฯ จะยังคงนำกลยุทธ์ “Customize & Quality Traveler” มาปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจโดยแบ่งออกเป็น 3 แนวทางคือ Product การขยายรูปแบบของผลิตภัณฑ์หรือแพคเกจด้านการท่องเที่ยวให้ครอบคลุมกับความต้องการของผู้บริโภคและสถานการณ์การท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไป จากเดิมมาคาเลียสจะเน้นการให้บริการด้านโรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร เรือสำราญ เฉพาะภายในประเทศ ซึ่งในปี 2566 จะเริ่มทำการขยายเส้นทางท่องเที่ยวไปยังต่างประเทศ อย่างประเทศญี่ปุ่น เกาหลี มัลดีฟส์ เป็นต้น และยังคงเอกลักษณ์ด้านบริการในแบบฉบับของมาคาเลียสที่รวมทุกบริการในแพลตฟอร์มเดียว คือ ลูกค้าสามารถดีไซน์แพคเกจได้ตามความต้องการ อาทิ เลือกซื้อเฉพาะที่พัก หรือเลือกซื้อที่พักรวมบัตรท่องเที่ยวสถานที่สำคัญ หรือรวมอาหารมื้อพิเศษ เป็นต้น
แนวทางต่อมาคือเรื่องของ Platform นอกเหนือจากแพลตฟอร์มออนไลน์ในรูปแบบเว็บไซต์และโซเชียลมิเดียแล้ว ทางบริษัทฯ ได้เตรียมลงทุนในการทำแอพลิเคชั่น “Makalius” เพื่ออำนวยความสะดวกต่อการใช้งานของลูกค้าอีกทั้งเพื่อเพิ่มศักยภาพทางการเข้าถึงและการจัดจำหน่ายให้เพิ่มมากขึ้น และสุดท้ายคือ Partner หรือพันธมิตร คือการให้ความสำคัญกับมาตรการการคัดเลือกพันธมิตรเข้าระบบอย่างเข้มงวด เพื่อมุ่งสร้างความน่าเชื่อถือให้กับกลุ่มลูกค้า โดยทางบริษัทฯ จะทำการพิจารณาพันธมิตรใหม่ด้วยการตรวจสอบอย่างละเอียดทั้งแผนการตลาด ระบบบัญชี อายุการเปิดให้บริการ เป็นต้น
นางสาวณีรนุช กล่าวต่อว่า “สำหรับภาพรวมของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในปี 2566 อาจเรียกได้ว่าเป็นช่วงกลับเข้าสู่ภาวะปกติของการท่องเที่ยวก่อนเกิดวิกฤติการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตลาดท่องเที่ยวจะกลับมาเติบโตได้แบบ 100% โดยมาคาเลียสคาดการณ์จากสถานการณ์ดังกล่าวประกอบกับการเดินหน้าตามแผนกลยุทธ์ทางการตลาดที่ตั้งไว้จะสามารถผลักดันให้มาคาเลียสขึ้นแท่นเป็นแพลตฟอร์มด้านการท่องเที่ยวสัญชาติไทยอันดับ 1 ของตลาด และคาดว่าจะสามารถสร้างรายให้โตขึ้นอีกกว่า 50% หรือประมาณ 100 ล้านบาท”
ไม่มีความคิดเห็น