ก.ล.ต. ไฟเขียว นับหนึ่งไฟลิ่ง PROSPECT REIT ลุยเพิ่มทุนครั้งที่ 1มูลค่าไม่เกิน 1,800 ล้านบาท ปักธงขยายมูลค่าสินทรัพย์ทะยานสู่ 5,400 ล้านบาท
· ส่งสัญญาณดีปี 66 ปีแห่งการเติบโต รุกลงทุนเพิ่มเติมในโครงการคลังสินค้าและโรงงานให้เช่าบนทำเลยุทธศาสตร์โลจิสติกส์
กรุงเทพฯ, 7 ธันวาคม 2565 – บริษัท พรอสเพค รีท แมเนจเมนท์ จำกัด ผู้จัดการกองทรัสต์ ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ พรอสเพค โลจิสติกส์และอินดัสเทรียล หรือ “PROSPECT REIT” ประกาศเดินหน้าแผนเพิ่มทุน ล่าสุด ก.ล.ต. อนุมัตินับหนึ่งไฟลิ่งสำหรับการเพิ่มทุนครั้งที่ 1 เพื่อลงทุนเพิ่มเติมในทรัพย์สินศักยภาพสูง จำนวน 2 โครงการ ขยายการลงทุนบนทำเลยุทธศาสตร์โลจิสติกส์ของไทย ถนนเทพารักษ์ และ ถนนบางนา-ตราด กม. 19 พื้นที่เช่ารวมกว่า 70,129 ตร.ม. มูลค่าลงทุนรวมไม่เกิน 1,800 ล้านบาท ชูจุดเด่นพื้นที่คุณภาพในเขต Free Zone ดึงดูดนักลงทุนหนุนการนำเข้า-ส่งออกสินค้า รับเศรษฐกิจฟื้น ตอกย้ำเป้าหมายในการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหน่วยอย่างสม่ำเสมอ
กรุงเทพฯ, 7 ธันวาคม 2565 – บริษัท พรอสเพค รีท แมเนจเมนท์ จำกัด ผู้จัดการกองทรัสต์ ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ พรอสเพค โลจิสติกส์และอินดัสเทรียล หรือ “PROSPECT REIT” ประกาศเดินหน้าแผนเพิ่มทุน ล่าสุด ก.ล.ต. อนุมัตินับหนึ่งไฟลิ่งสำหรับการเพิ่มทุนครั้งที่ 1 เพื่อลงทุนเพิ่มเติมในทรัพย์สินศักยภาพสูง จำนวน 2 โครงการ ขยายการลงทุนบนทำเลยุทธศาสตร์โลจิสติกส์ของไทย ถนนเทพารักษ์ และ ถนนบางนา-ตราด กม. 19 พื้นที่เช่ารวมกว่า 70,129 ตร.ม. มูลค่าลงทุนรวมไม่เกิน 1,800 ล้านบาท ชูจุดเด่นพื้นที่คุณภาพในเขต Free Zone ดึงดูดนักลงทุนหนุนการนำเข้า-ส่งออกสินค้า รับเศรษฐกิจฟื้น ตอกย้ำเป้าหมายในการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหน่วยอย่างสม่ำเสมอ
นางสาวอรอนงค์ ชัยธง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรอสเพค รีท แมเนจเมนท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ เปิดเผยว่า “ภายหลังจากที่ผู้จัดการกองทรัสต์ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (Filing) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขออนุญาตเสนอขายหน่วยทรัสต์สำหรับการเพิ่มทุนครั้งที่ 1 เพื่อลงทุนในทรัพย์สินหลักเพิ่มเติมจำนวนไม่เกิน 1,800 ล้านบาท โดยออกหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมจำนวนไม่เกิน 180,000,000 หน่วย ล่าสุด ทางสำนักงาน ก.ล.ต. ได้อนุมัตินับหนึ่งไฟลิ่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคาดว่าจะสามารถเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนภายในช่วงไตรมาสแรกปี 2566”
หลังจากการเข้าลงทุนใน 2 โครงการ จะเพิ่มพื้นที่อาคารคลังสินค้าและโรงงานเช่าภายใต้การบริหารจัดการ จาก 222,203 ตร.ม. เป็น 292,332 ตร.ม. รวมถึงมูลค่าของทรัพย์สินแบบ Freehold ของกองทรัสต์จะเพิ่มขึ้นเป็น 28.2% ของมูลค่าประเมินของทรัพย์สินทั้งหมด ขณะเดียวกัน ทรัพย์สินแบบ Leasehold จะมีระยะเวลาสิทธิการเช่าที่ยาวขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีต่อกองทรัสต์ในระยะยาว
โดยทรัพย์สินอาคารคลังสินค้าและโรงงานที่ PROSPECT REIT จะเข้าลงทุนในครั้งนี้ ได้แก่ สิทธิการเช่าช่วงที่ดินและกรรมสิทธิ์ในอาคารบางส่วนในโครงการบางกอกฟรีเทรดโซน 2 (BFTZ 2) ถนนเทพารักษ์ เป็นพื้นที่ในเขตประกอบการทั่วไป (General Zone) พื้นที่เช่า 20,996 ตร.ม. จำนวน 12 ยูนิต และ กรรมสิทธิ์ในที่ดินและอาคารบางส่วนในโครงการบางกอกฟรีเทรดโซน 3 (BFTZ 3) ถนนบางนา-ตราด กม.19 เป็นพื้นที่ในเขตปลอดอากร (Free Zone) ทั้งหมด พื้นที่เช่า 49,133 ตร.ม.จำนวน 23 ยูนิต ซึ่งทั้งสองโครงการเป็นโครงการสร้างใหม่ ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่สีม่วงสำหรับประกอบการอุตสาหกรรม รองรับความต้องการใช้งานของผู้เช่าได้อย่างรอบด้าน
“PROSPECT REIT ก่อตั้งครบ 2 ปี เมื่อเดือน สิงหาคม ที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าจะตรงกับช่วงสถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาด แต่กองทรัสต์ยังสามารถยืนหยัดและผ่านวิกฤตมาได้ พร้อมก้าวต่อไปด้วยความมุ่งมั่นสร้างความวางใจให้แก่ผู้ถือหน่วย จากกลยุทธ์ที่ชัดเจนจะเห็นได้ว่า เราสามารถรักษาอัตราการเช่าเฉลี่ยสูงกว่า 90% มาโดยตลอด สำหรับ 2 ไตรมาสที่ผ่านมายังรักษาอัตราการต่อสัญญาเช่าได้ถึง 100% สะท้อนการบริหารงานของผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ที่มีความเชี่ยวชาญ และบริหารจัดการแบบมืออาชีพ สำหรับการเพิ่มทุนครั้งที่ 1 นี้ ถือเป็นสัญญาณดีและเชื่อมั่นว่าปี 2566 จะเป็นปีแห่งการเติบโต หลังจากลงทุนเพิ่มเติมในโครงการคลังสินค้าและโรงงานให้เช่าบนทำเลยุทธศาสตร์โลจิสติกส์ ขยายมูลค่าสินทรัพย์ แตะ 5,400 ล้านบาท เดินตามเป้าหมาย 10,000 ล้านบาท ภายในปี 2567 นอกจากนี้ เรายังคงมีการศึกษาความเป็นไปได้สำหรับการลงทุนในโครงการทั้งของ Sponsor หลัก และ Sponsor รายอื่น เพื่อเติมทรัพย์สินคุณภาพเข้ากองทรัสต์อย่างต่อเนื่อง สร้างความยั่งยืนในระยะยาว” นางสาวอรอนงค์ กล่าวเสริม
ส่วนภาพรวมเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวในทิศทางที่ดีเป็นอีกปัจจัยสนับสนุน ขับเคลื่อนการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม ข้อมูลจาก สภาพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ (สศช.) ชี้ตัวเลข GDD ของไทย ในไตรมาส 3/2565 ขยายตัวได้ 4.5% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากการลงทุนภาคเอกชน ขยายตัว และภาคการส่งออกมีมูลค่า 71,980 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 6.7% หนุนให้พื้นที่เช่าบริเวณ Free Zone ของ PROSPECT REIT เป็นที่จับตาของนักลงทุนเอกชนมากขึ้น ประกอบกับปัจจัยด้านความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ตลอดจนสงครามทางการค้า ผลักดันให้ผู้ประกอบการต่างประเทศเล็งวางแผนย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV), อุตสาหกรรมอาหาร และอุตสาหกรรมเป้าหมายอื่น ๆ ซึ่งจะส่งผลเชิงบวกต่อระบบห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ทั้งหมดของไทย
หลังจากการเข้าลงทุนใน 2 โครงการ จะเพิ่มพื้นที่อาคารคลังสินค้าและโรงงานเช่าภายใต้การบริหารจัดการ จาก 222,203 ตร.ม. เป็น 292,332 ตร.ม. รวมถึงมูลค่าของทรัพย์สินแบบ Freehold ของกองทรัสต์จะเพิ่มขึ้นเป็น 28.2% ของมูลค่าประเมินของทรัพย์สินทั้งหมด ขณะเดียวกัน ทรัพย์สินแบบ Leasehold จะมีระยะเวลาสิทธิการเช่าที่ยาวขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีต่อกองทรัสต์ในระยะยาว
โดยทรัพย์สินอาคารคลังสินค้าและโรงงานที่ PROSPECT REIT จะเข้าลงทุนในครั้งนี้ ได้แก่ สิทธิการเช่าช่วงที่ดินและกรรมสิทธิ์ในอาคารบางส่วนในโครงการบางกอกฟรีเทรดโซน 2 (BFTZ 2) ถนนเทพารักษ์ เป็นพื้นที่ในเขตประกอบการทั่วไป (General Zone) พื้นที่เช่า 20,996 ตร.ม. จำนวน 12 ยูนิต และ กรรมสิทธิ์ในที่ดินและอาคารบางส่วนในโครงการบางกอกฟรีเทรดโซน 3 (BFTZ 3) ถนนบางนา-ตราด กม.19 เป็นพื้นที่ในเขตปลอดอากร (Free Zone) ทั้งหมด พื้นที่เช่า 49,133 ตร.ม.จำนวน 23 ยูนิต ซึ่งทั้งสองโครงการเป็นโครงการสร้างใหม่ ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่สีม่วงสำหรับประกอบการอุตสาหกรรม รองรับความต้องการใช้งานของผู้เช่าได้อย่างรอบด้าน
“PROSPECT REIT ก่อตั้งครบ 2 ปี เมื่อเดือน สิงหาคม ที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าจะตรงกับช่วงสถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาด แต่กองทรัสต์ยังสามารถยืนหยัดและผ่านวิกฤตมาได้ พร้อมก้าวต่อไปด้วยความมุ่งมั่นสร้างความวางใจให้แก่ผู้ถือหน่วย จากกลยุทธ์ที่ชัดเจนจะเห็นได้ว่า เราสามารถรักษาอัตราการเช่าเฉลี่ยสูงกว่า 90% มาโดยตลอด สำหรับ 2 ไตรมาสที่ผ่านมายังรักษาอัตราการต่อสัญญาเช่าได้ถึง 100% สะท้อนการบริหารงานของผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ที่มีความเชี่ยวชาญ และบริหารจัดการแบบมืออาชีพ สำหรับการเพิ่มทุนครั้งที่ 1 นี้ ถือเป็นสัญญาณดีและเชื่อมั่นว่าปี 2566 จะเป็นปีแห่งการเติบโต หลังจากลงทุนเพิ่มเติมในโครงการคลังสินค้าและโรงงานให้เช่าบนทำเลยุทธศาสตร์โลจิสติกส์ ขยายมูลค่าสินทรัพย์ แตะ 5,400 ล้านบาท เดินตามเป้าหมาย 10,000 ล้านบาท ภายในปี 2567 นอกจากนี้ เรายังคงมีการศึกษาความเป็นไปได้สำหรับการลงทุนในโครงการทั้งของ Sponsor หลัก และ Sponsor รายอื่น เพื่อเติมทรัพย์สินคุณภาพเข้ากองทรัสต์อย่างต่อเนื่อง สร้างความยั่งยืนในระยะยาว” นางสาวอรอนงค์ กล่าวเสริม
ส่วนภาพรวมเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวในทิศทางที่ดีเป็นอีกปัจจัยสนับสนุน ขับเคลื่อนการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม ข้อมูลจาก สภาพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ (สศช.) ชี้ตัวเลข GDD ของไทย ในไตรมาส 3/2565 ขยายตัวได้ 4.5% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากการลงทุนภาคเอกชน ขยายตัว และภาคการส่งออกมีมูลค่า 71,980 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 6.7% หนุนให้พื้นที่เช่าบริเวณ Free Zone ของ PROSPECT REIT เป็นที่จับตาของนักลงทุนเอกชนมากขึ้น ประกอบกับปัจจัยด้านความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ตลอดจนสงครามทางการค้า ผลักดันให้ผู้ประกอบการต่างประเทศเล็งวางแผนย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV), อุตสาหกรรมอาหาร และอุตสาหกรรมเป้าหมายอื่น ๆ ซึ่งจะส่งผลเชิงบวกต่อระบบห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ทั้งหมดของไทย
ไม่มีความคิดเห็น