เมอร์เซเดส-เบนซ์ ร่วมมือ กฟผ. เดินหน้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ผ่านการทดสอบการขับขี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่น EQS 500 4MATIC AMG Premium
ในภาพ: มร. มาร์ทิน ชเวงค์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (ตรงกลาง) และ มร. บีเยิร์น กุซเทรา รองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (ซ้ายสุด) พร้อมกับ นายวฤต รัตนชื่น ผู้ช่วยผู้ว่าการวิจัย นวัตกรรม และพัฒนาธุรกิจ ทำหน้าที่ Project Management Office การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) (ขวาสุด) ถ่ายภาพร่วมกันระหว่างทริปการทดสอบการขับขี่รถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่น EQS 500 4MATIC AMG Premium พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนประเทศสู่สังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน ณ สถานี EleX by EGAT เชียงใหม่ 8 ผ่านความร่วมมือของเมอร์เซเดส-เบนซ์ และ กฟผ. ในการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด (Clean Energy) และสร้างความรู้ความเข้าใจให้คนไทยหันมาใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ให้มากขึ้น เพื่อลดการปล่อยมลพิษออกสู่อากาศ มุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ร่วมกันในประเทศไทย ภายในปี ค.ศ. 2050
มร. มาร์ทิน ชเวงค์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด
โดยเมอร์เซเดส-เบนซ์ และ กฟผ. เคยร่วมมือกันจัดกิจกรรม “Saving The World From Wherever You Are” ในโอกาสเฉลิมฉลองวันคุ้มครองโลกผ่านการจัดทริปทดสอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% และรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด พร้อมร่วมแสดงวิสัยทัศน์ระหว่างผู้บริหารเมอร์เซเดส-เบนซ์ และ กฟผ. รวมถึงแขกรับเชิญจากวงการยานยนต์ที่มาร่วมสนทนากันในประเด็นเกี่ยวกับการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าและความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ในประเทศไทย
EQS 500 4MATIC AMG Premium เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% คันแรกจากแบรนด์ Mercedes-EQ
ที่เปิดไลน์การผลิตภายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ที่ให้กำลังสูงสุด 449 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 828 นิวตันเมตร มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 108.4 kWh ทำให้สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุดถึง 702 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP รองรับการชาร์จไฟฟ้ากระแสสลับ (AC charge) สูงสุด 11 kWh จาก 0-100% ภายใน 10 ชั่วโมง และการชาร์จไฟฟ้ากระแสตรง (DC charge) สูงสุด 200 kWh จาก 10-80% ภายใน 31 นาที
เกี่ยวกับ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี
เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี เป็นผู้รับผิดชอบธุรกิจทั่วโลกของรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และรถตู้เมอร์เซเดส-เบนซ์ ด้วยจำนวนพนักงานกว่า 172,000 คนทั่วโลก โดยมี โอล่า คัลเลนเนียส เป็นประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัทมุ่งเน้นการพัฒนา ผลิต และจำหน่ายรถยนต์ รถตู้ และบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ นอกจากนั้น ยังมีเจตนารมณ์ในการเป็นผู้นำของโลกในด้านยานยนต์ไฟฟ้าและซอฟต์แวร์รถยนต์ กลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัทประกอบด้วยแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และ
แบรนด์ย่อย เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี เมอร์เซเดส-มายบัค เมอร์เซเดส-อีคิว จี-คลาส และแบรนด์สมาร์ท โดยแบรนด์เมอร์-เซเดส มีนำเสนอการเข้าถึงบริการด้านดิจิทัลจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ ทั้งนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์โดยสารระดับลักชัวรีรายใหญ่ที่สุดของโลก ในปี 2564 บริษัทฯ จำหน่ายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลราว 1.9 ล้านคัน และรถตู้เกือบ 386,200 คัน เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี ขยายเครือข่ายการผลิตใน 2 กลุ่มธุรกิจอย่างต่อเนื่องทั่วโลก โดยมีฐานการผลิตราว 35 แห่งใน 4 ทวีป ควบคู่ไปกับแนวทางการพัฒนาที่ตอบสนองความต้องการในด้านยานยนต์ไฟฟ้า ขณะเดียวกัน บริษัทได้พัฒนาเครือข่ายการผลิตแบตเตอรี่ของตัวเองทั่วโลกใน 3 ทวีป การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนล้วนมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งทั้งต่อกลยุทธ์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์และต่อบริษัท สำหรับเมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี ความยั่งยืนหมายถึงการสร้างคุณค่าให้แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายในระยะยาว ทั้งลูกค้า พนักงาน นักลงทุน พันธมิตรทางธุรกิจ และสังคมโดยรวม โดยอาศัยพื้นฐานของกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของกลุ่ม เมอร์เซเดส-เบนซ์ กรุ๊ป ซึ่งมุ่งรับผิดชอบต่อผลกระทบในด้านเศรษฐกิจ สภาพแวดล้อม และสังคม จากกิจกรรมทางธุรกิจต่าง ๆ ของบริษัท และให้ความสำคัญต่อห่วงโซ่คุณค่าโดยรวม
ที่เปิดไลน์การผลิตภายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ที่ให้กำลังสูงสุด 449 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 828 นิวตันเมตร มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 108.4 kWh ทำให้สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุดถึง 702 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP รองรับการชาร์จไฟฟ้ากระแสสลับ (AC charge) สูงสุด 11 kWh จาก 0-100% ภายใน 10 ชั่วโมง และการชาร์จไฟฟ้ากระแสตรง (DC charge) สูงสุด 200 kWh จาก 10-80% ภายใน 31 นาที
เกี่ยวกับ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี
เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี เป็นผู้รับผิดชอบธุรกิจทั่วโลกของรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และรถตู้เมอร์เซเดส-เบนซ์ ด้วยจำนวนพนักงานกว่า 172,000 คนทั่วโลก โดยมี โอล่า คัลเลนเนียส เป็นประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัทมุ่งเน้นการพัฒนา ผลิต และจำหน่ายรถยนต์ รถตู้ และบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ นอกจากนั้น ยังมีเจตนารมณ์ในการเป็นผู้นำของโลกในด้านยานยนต์ไฟฟ้าและซอฟต์แวร์รถยนต์ กลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัทประกอบด้วยแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และ
แบรนด์ย่อย เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี เมอร์เซเดส-มายบัค เมอร์เซเดส-อีคิว จี-คลาส และแบรนด์สมาร์ท โดยแบรนด์เมอร์-เซเดส มีนำเสนอการเข้าถึงบริการด้านดิจิทัลจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ ทั้งนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์โดยสารระดับลักชัวรีรายใหญ่ที่สุดของโลก ในปี 2564 บริษัทฯ จำหน่ายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลราว 1.9 ล้านคัน และรถตู้เกือบ 386,200 คัน เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี ขยายเครือข่ายการผลิตใน 2 กลุ่มธุรกิจอย่างต่อเนื่องทั่วโลก โดยมีฐานการผลิตราว 35 แห่งใน 4 ทวีป ควบคู่ไปกับแนวทางการพัฒนาที่ตอบสนองความต้องการในด้านยานยนต์ไฟฟ้า ขณะเดียวกัน บริษัทได้พัฒนาเครือข่ายการผลิตแบตเตอรี่ของตัวเองทั่วโลกใน 3 ทวีป การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนล้วนมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งทั้งต่อกลยุทธ์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์และต่อบริษัท สำหรับเมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี ความยั่งยืนหมายถึงการสร้างคุณค่าให้แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายในระยะยาว ทั้งลูกค้า พนักงาน นักลงทุน พันธมิตรทางธุรกิจ และสังคมโดยรวม โดยอาศัยพื้นฐานของกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของกลุ่ม เมอร์เซเดส-เบนซ์ กรุ๊ป ซึ่งมุ่งรับผิดชอบต่อผลกระทบในด้านเศรษฐกิจ สภาพแวดล้อม และสังคม จากกิจกรรมทางธุรกิจต่าง ๆ ของบริษัท และให้ความสำคัญต่อห่วงโซ่คุณค่าโดยรวม
ไม่มีความคิดเห็น