Seafood from Norway เตรียมรับมือความต้องการความมั่นคงทางอาหารในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียในงาน THAIFEX – Anuga Asia 2023
กรุงเทพฯ 23 พฤษภาคม 2566 – ราคาอาหารที่สูงขึ้นและความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมสร้างความตึงเครียดต่อระบบอาหารทั่วโลก อุตสาหกรรมอาหารทะเล ในฐานะผู้ผลิตแหล่งโปรตีนทางเลือกคุณภาพสูง เป็นอุตสาหกรรมที่มีบทบาทสำคัญไม่แพ้กัน นอร์เวย์ซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกอาหารทะเลรายใหญ่อันดับสองของโลก สามารถเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยส่งเสริมความมั่นคงทางอาหารให้กับประเทศไทย ภูมิภาคเอเชีย และพื้นที่อื่น ๆ ต่อไปได้อย่างยั่งยืน
สำหรับงานแสดงสินค้าอาหาร THAIFEX – Anuga Asia 2023 ในปีนี้ ทางสภาอุตสาหกรรมอาหารทะเลนอร์เวย์ได้เชิญผู้ส่งออกอาหารทะเลจากนอร์เวย์กว่า 20 ราย มาจัดแสดงอาหารทะเลคุณภาพพรีเมียมหลากหลายประเภท รวมถึงการนำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ล้ำสมัย แสดงให้เห็นถึงทิศทางการเติบโตที่ดีและโอกาสด้านการค้าที่สูงขึ้นของผู้ประกอบการรายย่อยตลอดจนผู้ประกอบการรายใหญ่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายในงานได้รับเกียรติจาก นางแอสทริ เอมิเลีย เฮลเลอ เอกอัครราชทูตแห่งราชอาณาจักรนอร์เวย์ ประจำประเทศไทย และนาย คริสเตียน เครเมอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สภาอุตสาหกรรมอาหารทะเลนอร์เวย์ (NSC) มาร่วมเป็นแขกพิเศษ มีการจัดสัมมนาพิเศษเกี่ยวกับอาหารทะเล และการสาธิตวิธีการทำอาหารโดย เชฟ จิมมี่ ช๊ก เชฟกิตติมศักดิ์ของ Seafood from Norway ที่มีชื่อเสียงด้านการสร้างสรรค์สูตรอาหารที่ผสมผสานรสชาติแบบเอเชียเข้ากับการปรุงอาหารแบบตะวันตก
เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายเออร์ลิง ริเมอร์สตัด รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศของนอร์เวย์ ได้มาเยือนประเทศไทยเพื่อหารือด้านการค้าและความร่วมมือระหว่างประเทศ และกล่าวว่า “เป้าหมายสำหรับการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของประเทศนอร์เวย์คือการผลิตอาหารเพื่อสุขภาพในราคาที่จับต้องได้สำหรับทุกคน และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้ได้มากที่สุดจากกระบวนการนี้ นอร์เวย์เป็นผู้บุกเบิกเรื่องความยั่งยืนมาหลายศตวรรษ ทำงานร่วมกับพันธมิตรเพื่อออกกฎหมายคุ้มครองสัตว์น้ำ ส่งผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการการประมงไปยังประเทศต่าง ๆ ที่ต้องการเริ่มต้นทำการประมงอย่างยั่งยืน ด้วยแนวทางที่ให้ความสำคัญกับระบบนิเวศ ทำให้เราสามารถจัดสรรอาหารทะเลคุณภาพที่ผู้คนทั่วโลกเข้าถึงได้ และคงความอุดมสมบูรณ์ให้กับท้องทะเลได้ในเวลาเดียวกัน เราเชื่อว่าการดำเนินงานร่วมกับผู้ผลิตรายอื่น ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ จะทำให้อาหารทะเลจากนอร์เวย์ช่วยส่งเสริมความมั่นคงด้านอาหารของโลกผ่านการผลิตโปรตีนที่มีคุณภาพและยั่งยืนได้ โดยที่เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”
รายงานล่าสุดจากองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติเผยว่าในปี 2564 ประชากรจำนวน 2.3 พันล้านคน หรือเกือบร้อยละ 30 ของประชากรโลก ต้องเผชิญกับปัญหาความไม่มั่นคงทางอาหาร ผู้คนกว่า 702 ถึง 828 ล้านคน ได้รับผลกระทบจากความอดอยาก และคาดว่าในปี 2573 จะมีผู้คนกว่า 670 ล้านคน ที่ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ผลกระทบจากการระบาดใหญ่ได้สร้างความตึงเครียดต่ออุตสาหกรรมการผลิตอาหารและช่องทางการค้า ส่งผลให้ราคาอาหารพุ่งสูงขึ้นและเกิดความไม่เท่าเทียมในการเข้าถึงแหล่งอาหาร แผนความมั่นคงอาหารสู่ปี 2030 ของเอเปค เน้นการสร้างความมั่นใจในการเข้าถึงแหล่งอาหารที่เพียงพอและมีคุณค่าทางโภชนาการในราคาที่จับต้องได้ เพื่อตอบสนองความต้องการด้านอาหารของผู้คนทั่วโลก
เกี่ยวกับสภาอุตสาหกรรมอาหารทะเลนอร์เวย์
สภาอุตสาหกรรมอาหารทะเลนอร์เวย์ (NSC) เป็นบริษัทมหาชนภายใต้กระทรวงการค้า อุตสาหกรรม และการประมง สภาฯ ทำงานร่วมกับอุตสาหกรรมการประมงและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของนอร์เวย์ เพื่อพัฒนาและขยายตลาดอาหารทะเลส่งออกจากนอร์เวย์ เป็นตัวแทนผู้ส่งออกอาหารทะเลและอุตสาหกรรมอาหารทะเลของประเทศนอร์เวย์ “Seafood from Norway” เป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงแหล่งกำเนิดของอาหารทะเลที่จับได้หรือเพาะเลี้ยงในแหล่งน้ำทะเลที่เย็นและใสสะอาดของประเทศนอร์เวย์
ไม่มีความคิดเห็น