มาเซราติฉลองส่งท้ายก่อนปิดฉากเครื่องยนต์ วี 8 ขุมพลังในตำนานที่เทศกาลกู๊ดวูด เฟสติวัล ออฟ สปีด 2023
มาเซราติเปิดตัว กิบลี 334 อัลติมา (Ghibli 334 Ultima) และเลวานเต้ วี8 อัลติมา (Levante V8 Ultima) ครั้งแรกให้คนทั่วโลกได้ยลโฉมที่งานกู๊ดวูด เฟสติวัล ออฟ สปีด (Goodwood Festival of Speed) สุดยอดงานเทศกาลมอเตอร์สปอร์ตและรถแข่งประจำปีในประเทศอังกฤษในการจัดงานปีนี้ ค่ายตรีศูลเฉลิมฉลองบทสุดท้ายของซูเปอร์คาร์หลายรุ่นที่ติดตั้งเครื่องยนต์ วี8 ขุมพลังแห่งตำนานซึ่งมียอดจำหน่ายไปแล้วมากกว่า 100,000 คันนับตั้งแต่เปิดตัวมาเซราติ 5000 จีที (Maserati 5000 GT) ครั้งแรกเมื่อปี 1959

ภายในโซนจัดแสดง มาเซราติเตรียมจัดแสดงความสำเร็จที่ผ่านมาและศักยภาพของมาเซราติ กรันทูริสโม วันออฟ พริสมา (Maserati GranTurismo One Off Prisma) และ มาเซราติ กรันทูริสโม โฟลกอเร (Maserati GranTurismo Folgore) ให้ผู้เข้าชมงานได้ร่วมชื่นชมและสัมผัสยนตรกรรมสุดหรูที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบคันแรกนี้ได้อย่างใกล้ชิด
รถยนต์ไฟฟ้าโมเดลใหม่นี้ใช้แบตเตอรี่ 800 โวลต์ ซึ่งรังสรรค์ขึ้นด้วยสุดยอดเทคโนโลยีที่พัฒนามาจากรถแข่งฟอร์มูลา อี (Formula E) ที่ทำให้รถแข่งแบบคูเป้สี่ที่นั่งรุ่นนี้สามารถวิ่งไกลได้ถึง 450 กิโลเมตรในการชาร์จเพียงครั้งเดียว และเพิ่มระยะทางวิ่งได้ถึง 100 กิโลเมตรเมื่อชาร์จเร็วในเวลาเพียง 5 นาที นอกจากนี้ยังคงมีสมรรถนะเหนือระดับด้วยมอเตอร์สนามแม่เหล็กไฟฟ้าขนาด 300 กิโลวัตต์ 3 ชุด ซึ่งอยู่ด้านหน้ารถ 1 ชุด และท้ายรถ 2 ชุด ทำให้มีพลังสูงถึง 750 แรงม้าและแรงบิดที่ 1,350 นิวตันเมตร
ซูเปอร์คาร์ในตระกูลกรันทูริสโมทั้งหมด ถูกพัฒนาขึ้นจากมาเซราติ เอ6 1500 จีที (Maserati A6 1500 GT) ซึ่งเป็นรถยนต์แกรนด์ทัวริ่งคันแรกของโลก โดดเด่นด้วยการผสานอย่างลงตัวระหว่างสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ เทคโนโลยีสุดล้ำ และสมรรถนะสุดแรง จุดเด่นทั้งหมดนี้มารวมกันอยู่ในรถยนต์สุดเท่สัญชาติอิตาลีเหล่านี้ยนตรกรรมที่มาเซราตินำมาจัดแสดงในส่วนรถยนต์ไฟฟ้า (Electric Avenue) ของเทศกาลนี้ ได้แก่ มาเซราติ เกรคาเล่ โฟลกอเร (Maserati Grecale Folgore) ซึ่งเป็นรถยนต์เอสยูวีหรูขนาดกลาง ติดตั้งแบตเตอรี่ 105 กิโลวัตต์ ที่ใช้เทคโนโลยี 400 โวลต์ และสามารถวิ่งได้ระยะทาง 310 ไมล์ (ประมาณ 500 กิโลเมตร*) และถูกออกแบบอยางประณีตเพื่อให้การขับขี่ทุกวันเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจเหนือระดับ เกรคาเล่ โฟลกอเร ถือเป็นซูเปอร์คาร์ที่ออกแบบและผลิตในประเทศอิตาลี ที่สะท้อนความเป็นหนึ่งของมาเซราติทั้งในด้านสมรรถนะและความหรูหรา ทรงพลังด้วยแรงบิด 820 นิวตันเมตรและขุมกำลังกว่า 500 แรงม้าอีกหนึ่งซูเปอร์คาร์ที่จะเป็นดาวตลอด 4 วันของการจัดงานได้แก่ มาเซราติ เอ็มซี20 แชโล (MC20 Cielo) ที่เพิ่งเปิดตัวครั้งแรกในอังกฤษเมื่อปีที่แล้วพร้อมกับเดวิด เบคแฮม ที่งานเทศกาลกู๊ดวูด เฟสติวัล ออฟ สปีด 2022 และในงานนี้ เอ็มซี 20 แชโล จะกลับมาแสดงพลังอีกครั้งในการเข้าร่วมการแข่งรถขึ้นเขา โดยมีรอสโซ วินเชนเต (Rosso Vincente) เป็นผู้ขับซูเปอร์คาร์ที่โดดเด่นสะดุดตาคันนี้ มีอัตราน้ำหนักต่อแรงม้า (weight-to-power ratio) มหาศาล แชสซีที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ หลังคาเปิดประทุนใส วางขุมพลังเน็ททูโน วี 6 ที่พัฒนามาจากรถแข่งฟอร์มูลาวัน ให้พลังสูงถึง 621 แรงม้า
*ตัวเลขคาดการณ์และสเป็คของ EU
รถยนต์ไฟฟ้าโมเดลใหม่นี้ใช้แบตเตอรี่ 800 โวลต์ ซึ่งรังสรรค์ขึ้นด้วยสุดยอดเทคโนโลยีที่พัฒนามาจากรถแข่งฟอร์มูลา อี (Formula E) ที่ทำให้รถแข่งแบบคูเป้สี่ที่นั่งรุ่นนี้สามารถวิ่งไกลได้ถึง 450 กิโลเมตรในการชาร์จเพียงครั้งเดียว และเพิ่มระยะทางวิ่งได้ถึง 100 กิโลเมตรเมื่อชาร์จเร็วในเวลาเพียง 5 นาที นอกจากนี้ยังคงมีสมรรถนะเหนือระดับด้วยมอเตอร์สนามแม่เหล็กไฟฟ้าขนาด 300 กิโลวัตต์ 3 ชุด ซึ่งอยู่ด้านหน้ารถ 1 ชุด และท้ายรถ 2 ชุด ทำให้มีพลังสูงถึง 750 แรงม้าและแรงบิดที่ 1,350 นิวตันเมตร
ซูเปอร์คาร์ในตระกูลกรันทูริสโมทั้งหมด ถูกพัฒนาขึ้นจากมาเซราติ เอ6 1500 จีที (Maserati A6 1500 GT) ซึ่งเป็นรถยนต์แกรนด์ทัวริ่งคันแรกของโลก โดดเด่นด้วยการผสานอย่างลงตัวระหว่างสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ เทคโนโลยีสุดล้ำ และสมรรถนะสุดแรง จุดเด่นทั้งหมดนี้มารวมกันอยู่ในรถยนต์สุดเท่สัญชาติอิตาลีเหล่านี้ยนตรกรรมที่มาเซราตินำมาจัดแสดงในส่วนรถยนต์ไฟฟ้า (Electric Avenue) ของเทศกาลนี้ ได้แก่ มาเซราติ เกรคาเล่ โฟลกอเร (Maserati Grecale Folgore) ซึ่งเป็นรถยนต์เอสยูวีหรูขนาดกลาง ติดตั้งแบตเตอรี่ 105 กิโลวัตต์ ที่ใช้เทคโนโลยี 400 โวลต์ และสามารถวิ่งได้ระยะทาง 310 ไมล์ (ประมาณ 500 กิโลเมตร*) และถูกออกแบบอยางประณีตเพื่อให้การขับขี่ทุกวันเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจเหนือระดับ เกรคาเล่ โฟลกอเร ถือเป็นซูเปอร์คาร์ที่ออกแบบและผลิตในประเทศอิตาลี ที่สะท้อนความเป็นหนึ่งของมาเซราติทั้งในด้านสมรรถนะและความหรูหรา ทรงพลังด้วยแรงบิด 820 นิวตันเมตรและขุมกำลังกว่า 500 แรงม้าอีกหนึ่งซูเปอร์คาร์ที่จะเป็นดาวตลอด 4 วันของการจัดงานได้แก่ มาเซราติ เอ็มซี20 แชโล (MC20 Cielo) ที่เพิ่งเปิดตัวครั้งแรกในอังกฤษเมื่อปีที่แล้วพร้อมกับเดวิด เบคแฮม ที่งานเทศกาลกู๊ดวูด เฟสติวัล ออฟ สปีด 2022 และในงานนี้ เอ็มซี 20 แชโล จะกลับมาแสดงพลังอีกครั้งในการเข้าร่วมการแข่งรถขึ้นเขา โดยมีรอสโซ วินเชนเต (Rosso Vincente) เป็นผู้ขับซูเปอร์คาร์ที่โดดเด่นสะดุดตาคันนี้ มีอัตราน้ำหนักต่อแรงม้า (weight-to-power ratio) มหาศาล แชสซีที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ หลังคาเปิดประทุนใส วางขุมพลังเน็ททูโน วี 6 ที่พัฒนามาจากรถแข่งฟอร์มูลาวัน ให้พลังสูงถึง 621 แรงม้า
*ตัวเลขคาดการณ์และสเป็คของ EU
ไม่มีความคิดเห็น