ศน.สืบสานโบราณราชประเพณี สร้างการรับรู้งานพิธีกฐินพระราชทาน รักษามรดกทางวัฒนธรรมประเพณีอันทรงคุณค่าคู่แผ่นดินไทย
วันที่ 29 สิงหาคม 2566 เวลา 08.30 น. นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา เป็นประธานการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่องพระมหากษัตริย์กับการพระพุทธศาสนาและศาสนพิธี เพื่อให้ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการสืบสานโบราณราชประเพณีที่เกี่ยวข้องกับงานด้านศาสนูปถัมภ์และศาสนพิธี โดยมี ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน รัฐวิสาหกิจ พ่อค้าประชาชน ผู้ขอรับผ้าพระกฐินพราชทาน เจ้าหน้าที่กรมการศาสนา และสื่อมวลชน เข้าร่วมในพิธี ณ ห้องอมรินทร์ ชั้น 3 โรงแรมเอสดี อเวนิว เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร
4. ตรวจสอบเครื่องพระกฐินพระราชทานครบตามจำนวนที่กรมการศาสนากำหนดไว้หรือไม่ 5. จัดเตรียมเทียนชนวน ที่กรวดน้ำ คำถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน 6. จัดเตรียมพานสำหรับประดิษฐานผ้าพระกฐินพระราชทาน เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ 7. จัดเตรียมโต๊ะ พานแว่นฟ้า และพานวางเทียนปาฏิโมกข์ ตั้งหน้าพระสงฆ์รูปที่ 2 สำหรับให้ผู้ขอรับพระราชทานผ้าพระกฐินวางผ้าพระกฐินพระราชทานถวายพระสงฆ์
ทั้งนี้ แนวทางการปฏิบัติงาน ดังนี้ 1. จัดแต่งธูปเทียนเครื่องนมัสการพระพุทธปฏิมาในพระอุโบสถให้เรียบร้อย 2. จัดโต๊ะหมู่บูชาเพื่อประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ตัวสูงสุด แถวกลางประดิษฐานผ้าพระกฐินพระราชทานไว้ที่ตัวกลาง แถวกลาง และวางพานดอกไม้ธูปเทียนแพไว้ที่โต๊ะหมู่ตัวกลางแถวล่าง 3. ผ้าพระกฐินพระราชทาน ให้นำพลาสติกออก แล้วจึงติดคำถวายบนผ้าพระกฐินพระราชทาน และวางผ้าห่มพระประธานไว้บนคำถวายผ้าพระกฐิน ควรใช้เทบใสยึดติดให้แน่นป้องกันไม่ให้เลื่อนตก (สำหรับพระอารามหลวงที่สังกัดธรรมยุตทั้งหมด และพระอารามหลวงที่สังกัดมหานิกาย ซึ่งมีอยู่ 7 พระอาราม ได้แก่ วัดชินวราราม จังหวัดปทุมธานี วัดเขาวัง จังหวัดราชบุรี วัดในวังจังหวัดสงขลา วัดเทวสังฆาราม จังหวัดกาญจนบุรี วัดปรมัยยิกาวาส จังหวัดนนทบุรี วัดทรงธรรมจังหวัดสมุทรปราการ และวัดเจริญสุขาราม จังหวัดสมุทรสาคร จะมีผ้าขาวด้วย ให้ใช้ริบบิ้นผูกผ้าขาวติดกับผ้าพระกฐินพระราชทานไว้ให้เรียบร้อยก่อน แล้วจึงติดคำถวายไว้บนผ้าขาว และนำผ้าห่มพระประธานวางไว้บนคำถวาย และต้องใช้เทปติดให้แน่นเช่นกัน)
การอบรมฯ ดังกล่าว จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติงานด้านศาสนพิธีในงานพระราชพิธี งานพระราชกุศล และงานศาสนพิธีที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ กอปรกับรัฐบาลได้เล็งเห็นถึงความสำคัญจึงได้กำหนดแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ด้านยุทธศาสตร์การพัฒนาคนสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการเสริมสร้างความเข้มแข็งของสถาบันทางสังคมใช้ศาสนาเป็นหลักในการส่งเสริมให้เด็ก เยาวชน และคนในสังคมมีศีลธรรม คุณธรรม และจริยธรรมตามหลักคำสอนทางศาสนา พร้อมทั้งได้มีนโยบายของรัฐบาลด้านการเรียนรู้ การทำนุบำรุงศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม โดยเฉพาะการทำนุบำรุงอุปถัมภ์พระพุทธศาสนา และศาสนาอื่นๆ ตลอดจนสร้างสันติสุขและความปรองดองสมานฉันท์ในสังคมไทยอย่างยั่งยืน ปลูกฝังค่านิยม และจิตสำนึกที่ดี สอดคล้องกับค่านิยมหลักของไทยในด้านความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นสถาบันหลักของชาติ การรักษาวัฒนธรรมประเพณีไทยอันงดงามสืบไป
ไม่มีความคิดเห็น