Breaking News

อ.ส.ค.จัดโปรแกรมท่องเที่ยวฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์คสุดเก๋ไก๋

 อ.ส.ค.จัดโปรแกรมท่องเที่ยวฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์คสุดเก๋ไก๋ ชวนครอบครัวจูงลูกหลานสวมชุดคาวบอย-คาวเกิลล์ฝึกหัด “เลี้ยงวัว” เรียนรู้โคนมอาชีพพระราทาน 9-10 ก.ย. 66 นี้รับจำนวนจำกัด

นายสมพร   ศรีเมือง ผู้อำนวยองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.)  กล่าวว่า เพื่อเปิดประสบการณ์ให้เด็กและเยาวชนได้เรียนรู้การเลี้ยงโคนมซึ่งเป็นอาชีพพระราชทาน   



อ.ส.ค. ในฐานะเจ้าของฟาร์มโคนม ไทย-เดนมาร์ค อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี จึงได้จัดกิจกรรมดีๆ ส่งเสริมการเรียนรู้และใช้ชีวิตสำหรับเยาวชน โปรแกรม “เด็กเลี้ยงวัว” ขึ้นระหว่างวันเสาร์ที่ 9 และวันอาทิตย์ที่ 10 กันยายน 2566  (2 วัน 1 คืน) ขึ้น   โดยแต่ละกิจกรรมจะเน้นให้เด็กๆ ลงมือปฏิบัติจริงด้วยสวมบทการเป็น “เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมตัวน้อย” โดยเน้นเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 5-12 ปี



สำหรับรายละเอียดกิจกรรม เริ่มตั้งแต่ให้น้องๆได้สัมผัสพี่วัวอย่างใกล้ชิด ให้อาหารแม่โค อาบน้ำแปรงขนแม่โค รีดนมด้วยมือ ป้อนนมลูกโคสัมผัสเต้านมนุ่มๆ ของแม่โค ชมการรีดนมโคด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย ชม Thai-Denmark Smart Dairy Farm หรือฟาร์มประสิทธิภาพสูง   ซึ่งฟาร์มที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยการเลี้ยงวัว ต่อด้วยการนำชมโรงงานผลิตนมตั้งแต่ขั้นตอนรับน้ำนมดิบจนถึงกระบวนการบรรจุนมลงกล่อง   พร้อมทั้งมีกิจกรรมทำอาหารจากน้ำนมโค อาทิ เช่น สมูทตี้, Fresh Mozzarella, Panna cotta, Yogurt ตบท้ายด้วยชมโชว์การแสดงคาวบอย เล่นรอบกองไฟ ดื่มด่ำบรรยากาศธรรมชาติ นอนดูดาวและฟังเสียงน้ำตก    โดยกำหนดอัตราค่าบริการดังนี้   สำหรับเด็กหรือผู้ที่สนใจทำกิจกรรม 1,890 บาท/ท่าน รวมอาหารพร้อมที่พัก   สำหรับผู้ปกครอง 1,490 บาท/ท่าน รวมอาหารพร้อมที่พัก โดยกิจกรรมดังกล่าวรับจำนวนจำกัด  สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร 091-890-6335 หรือ LINE OfficialAccount::https://lin.ee/hbX2mBk “บทบาทและหน้าที่ของ อ.ส.ค.นอกจากจะเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไทย-เดนมาร์คแล้ว   ยังมีหน้าที่ด้านส่งเสริมกิจการโคนม โดย อ.ส.ค.มีฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค ถือเป็นฟาร์มโคนมแห่งแรกของประเทศไทยที่เป็นต้นแบบในการเรียนรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงโคนมอย่างเป็นระบบ เกษตรกรสามารถนำไปประกอบอาชีพได้อย่างมั่นคง ทั้งยังส่งเสริมการบริโภคนมเพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง การจัดโปรแกรมเด็กเลี้ยงวัวขึ้นถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ช่วยปลูกฝังให้เด็กไทยเห็นความสำคัญของโคนมอาชีพพระราชทาน ซึ่งนำไปสู่การรักษา ต่อยอดอาชีพโคนมให้เกิดความยั่งยืนในอนาคต” นายสมพร กล่าว




                

ไม่มีความคิดเห็น