Breaking News

สสส.-กทม. หนุน เครือข่าย “เป็นหูเป็นตาเพื่อสังคม” สร้างวัฒนธรรมปลอดภัยทางถนนมุ่งเป้าเขตสาทร-บางรัก ร่วมพัฒนา ถนนสาทร ให้เป็นถนนปลอดอุบัติเหตุต้นแบบ เปิดแคมเปญสุดปัง “ระวังหมดอายุ” ชวนสะกิดเตือนกันด้วยรักและห่วงใย

 

เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2566 ณ ห้องประชุมสำนักงานเขตสาทร  นายธนันท์ชัย เมฆประเสริฐวนิช ผู้อำนวยการกองนโยบายแผนงาน สำนักงานการจราจรและขนส่ง  กรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยผู้บริหารเขตสาทร ผู้อำนวยการเขตบางรัก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย  และผู้ก่อการดีเครือข่ายเป็นหูเป็นตาเพื่อสังคม จากทุกภาคส่วน  

ร่วมกันแถลงข่าวเปิดกิจกรรมเชิงรุกและมาสคอต  ผึ้งน้อยเป็นหู เป็นตา เพื่อสังคม  เพื่อชวนคนไทยมีส่วนร่วมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน  พร้อมเปิดตัวแคมเปญ  “ระวังหมดอายุ  STAY  SAFE “   มุ่งปลุกกระตุ้นทุกคนที่ใช้ถนนสาทร  เข้ามามีส่วนร่วมพัฒนาถนนสาทร ให้เป็นถนนปลอดอุบัติเหตุต้นแบบ  สะกิดเตือนกันด้วยความรัก ความปลอดภัย ให้ทุกคนระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนนเพื่อกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัยทุกวัน และทำกิจกรรมร่วมกับโรงเรียนเพื่อสร้างจิตสำนึกและผู้นำเยาวชนขับเคลื่อนความปลอดภัยทางถนน


ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม  ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวสสส. มุ่งขับขับเคลื่อนประเด็นต่าง ๆ ของสังคม สร้างให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในสังคม หวังที่จะเห็นงานความปลอดภัยทางถนน  เป็นงานที่มีความสำคัญ และเกี่ยวข้องกับทุกคน การจะทำให้ถนนบ้านเรามีความปลอดภัย เพื่อเราทุกคน มีหลากหลายองค์ประกอบ ทั้ง ด้านคน-รถ-ถนน-สภาพแวดล้อมและบริบทต่าง ๆ ต้องแก้ทุกองค์ประกอบจึงจะทำให้เกิดความปลอดภัย ทำให้วัฒนธรรมของความปลอดภัยทางถนน เกิดเป็นวิถีและวัฒนธรรมของผู้ใช้รถใช้ถนน   กิจกรรมและแคมเปญระวังหมดอายุ จึงเป็นจุดสตาร์ทที่ดี ที่แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือของทุกคน ในการช่วยกันเป็นหูเป็นตา เพื่อร่วมสร้างถนนสาทร  ให้เป็นถนนปลอดอุบัติเหตุต้นแบบ 



“ข้อมูลจากสถานีตำรวจนครบาลยานนาวา  และทุ่งมหาเมฆ  เบื้องต้นพบว่าในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุบนถนนสาทรไปแล้วถึง 335 ครั้ง และเฉลี่ยมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ 10 คน  โดยส่วนใหญ่เป็นอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ และผู้เสียชีวิตอยู่ในวัยหนุ่มสาวและคนทำงานถนนสาทรเป็นถนนที่มีความสำคัญ ตั้งอยู่ใจกลางของ กทม. มีการเดินทางสัญจรและมีความหนาแน่นของประชากรค่อนข้างมาก และมุ่งหวังที่จะทำให้พื้นที่ถนนสาทร กลายเป็นพื้นที่ปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ทั้งผู้ใช้รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ไรเดอร์ รถโดยสารสาธารณะ ตลอดจนผู้ใช้ทางเดินเท้า หากสามารถร่วมกันทำให้ปลอดอุบัติเหตุได้ ก็จะส่งแรงกระเพื่อมขยายผลพื้นที่ ไปยังถนนเส้นอื่นและเขตอื่นๆ ใน กทม. และขยายผลต่อในหัวเมืองสำคัญทั่วประเทศต่อไป” ดร.นพ.ไพโรจน์ กล่าว


ดร. อุดม หงส์ชาติกุล ผู้ก่อตั้งห้องปฏิบัติการทางสังคมประเทศไทย และประธานเครือข่าย เป็นหูเป็นตาเพื่อสังคม กล่าวว่า จากสถิติจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนของประเทศไทย ที่ยังคงสูงเป็นอันดับ 9 ของโลก คือปีละ 2 หมื่นคน หรือเฉลี่ยวันละ 6 คน หรือ ชั่วโมงละ 2 คน  โดยกว่าครึ่งเป็นเยาวชนไทย  และมีผู้บาดเจ็บพิการจากอุบัติเหตุปีละประมาณ 500,000 ราย   สร้างผลกระทบต่อทั้งด้านสังคม และเศรษฐกิจ อย่างมหาศาล  โดยเฉพาะครอบครัวที่ต้องสูญเสียคนที่รักไปอย่างไม่มีวันกลับ  จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนจะต้องตระหนักและเข้ามามีส่วนร่วม  โดยควบคู่ไปกับการรณรงค์ของภาคส่วนต่างๆ   หัวใจสำคัญคือการสร้างความตระหนักให้ทุกคนมีส่วนร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก  


“ด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคประชาชน ภาคประชาสังคม และภาคเอกชน  เครือข่าย เป็นหู เป็นตา เพื่อสังคม มุ่งสร้างวัฒนธรรมใหม่ในการใช้รถใช้ถนน (Co-Creating Road Seafty Culture)  มีการเตือนตนเอง เตือนคนที่เรารัก และรักเรา ด้วยความปรารถนาดี ห่วงใย  เพื่อให้ทุกคนปลอดภัยอยู่เสมอ  การเปิดตัวแคมเปญระวังหมดอายุ  เพื่อพัฒนาให้ถนนสาทรเป็นถนนปลอดอุบัติเหตุครั้งนี้ ได้เปิดตัวมาสคอต  ผึ้งน้อยเป็นหู เป็นตา เพื่อสังคม   ที่จะช่วยย้ำเตือนให้ทุกคนระมัดระวังในการขับขี่  และมีการเปิดตัวเพลงฮิตติดหูในการรณรงค์ “เพลงระวังหมดอายุ” เพื่อย้ำเตือน และสะกิดให้ทุกคนระมัดระวัง และใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัยตลอดเวลา ด้วย 4 เตือน คือ ระวังความเร็ว ระวังทางข้าม ระวังทางแยก  และระวังน็อก  คือให้สวมหมวกกันน๊อกทุกครั้งที่ขับขี่ หรือ ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ” ดร. อุดม กล่าว


ดร. อุดม กล่าวต่อว่า เครือข่าย เป็นหู เป็นตา เพื่อสังคม และแคมเปญ “ระวังหมดอายุ  STAY  SAFE   ได้รับการตอบรับจากกรุงเทพมหานครและหลายภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็ง นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน เป็นต้นไป  มีแผนที่จะจัดกิจกรรมเชิงรุกในเขตพื้นที่เขตสาทรและเขตบางรักอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง   โดยไฮไลท์ เชิญชวนทุกคนมาร่วมแสดงความคิดเห็นใน Mini Exhibition ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 16-19 พฤศจิกายน 2566 ณ สกายวอล์กช่องนนทรี  และในวันที่ 19 พฤศจิกายน เป็นวันรำลึกถึงผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุทางท้องถนน   นอกจากนี้จะมีกิจกรรมร่วมกับเครือข่ายโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร  การถอดบทเรียน  และพัฒนากิจกรรม แคมเปญ  ให้ทุกคนมีส่วนร่วมอย่างจริงจัง เพื่อสร้างให้เกิดวัฒนธรรมความปลอดภัยในโรงเรียนและสังคมในวงกว้างได้อย่างแท้จริง 


เครือข่ายเป็นหู เป็นตา เพื่อสร้างสังคม เพื่อสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน สนับสนุนโดย สสส. ประกอบด้วยผู้ก่อการดีทั้งภาครัฐ ภาคประชาสังคม ภาคธุรกิจ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และภาคประชาชน  ที่ต่างเห็นความสำคัญของการสร้างความปลอดภัยทางถนนให้เกิดขึ้น รวมถึงหน่วยงานที่ขับเคลื่อนความปลอดภัยมาอย่างยาวนาน  เช่น มูลนิธิเมาไม่ขับ  องค์กรสนับสนุนป้องกันอุบัติเหตุจราจร ขอเชิญชวนประชาชน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ โดยติดต่อได้ที่  Facebook   เป็นหูเป็นตาเพื่อสังคม

ไม่มีความคิดเห็น