รัฐบาลปลื้มพลังศรัทธาพุทธศาสนิกชนสักการะพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุฯ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง กว่า 1 ล้านคน “เสริมศักดิ์”ขอบคุณทุกภาคส่วนร่วมมือ พร้อมให้ทุกหน่วยงานวธ.สนับสนุนอัญเชิญไปเชียงใหม่ อุบลราชธานีและกระบี่ กำชับสวธ.เร่งรวบรวมข้อมูลชุดไทยพระราชนิยมเสนอยูเนสโก มอบกรมศิลปากรส่งเสริมด้านซ่อมแซมคัมภีร์โบราณ ผลักดันไทยเป็นแหล่งเชี่ยวชาญของโลก
“การอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุฯมาประเทศไทยเพื่อให้พุทธศาสนิกชนทั่วประเทศได้มาสักการบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัวและมงคลสูงสุดเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอขอบคุณทุกฝ่ายและทุกภาคส่วน รวมทั้งทุกหน่วยงานของวธ.ที่ร่วมกันดำเนินการ ขอให้ทุกหน่วยงานของวธ.ช่วยกันดูแลและสนับสนุนการอัญเชิญไปยังเชียงใหม่ อุบลราชธานีและกระบี่ให้ประสบความสำเร็จ เป้าหมายของรัฐบาลโดยวธ.มุ่งส่งเสริมให้เป็นประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของพระพุทธศาสนาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และน้อมนำคำสอนของพระพุทธศาสนามาสร้างความรัก ความสามัคคี ก่อให้เกิดสันติสุขและสันติภาพในภูมิภาคนี้ จะหารือแนวทางขับเคลื่อนกับนายกรัฐมนตรีต่อไป” นายเสริมศักดิ์ กล่าว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันได้กำชับให้กรมส่งเสริมวัฒนธรรมดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีที่ให้วธ.โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม(สวธ.)เร่งรวบรวมข้อมูลเรื่องของชุดไทยพระราชนิยม เพื่อเสนอขึ้นทะเบียนรายการตัวแทนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติต่อองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก)ให้ทันภายในเดือนมีนาคมนี้ นอกจากนี้ ได้แจ้งเรื่องที่นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีร่วมกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว“เที่ยวใต้สุดใจ” ปัตตานี ยะลาและนราธิวาส เมื่อวันที่ 27-29 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งนายกรัฐมนตรีเห็นว่า 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีของดีซ่อนอยู่มากมายและมีความหลากหลายของวัฒนธรรมและประเพณีเป็นจุดขายสำคัญ และความสงบสุขของภาคใต้จะเกิดขึ้นได้เมื่อมีเศรษฐกิจที่ดีพร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีได้ไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลามและศูนย์การเรียนรู้คัมภีร์อัลกุรอานที่จังหวัดนราธิวาส
“นายกรัฐมนตรีประทับใจมากในการไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลามฯและสนใจเรื่องการซ่อมแซมคัมภีร์อัลกุรอานโบราณ ปัจจุบันมีผู้เชี่ยวชาญด้านนี้น้อยมาก จึงมอบหมายวธ.โดยกรมศิลปากรให้ส่งเสริมด้านการซ่อมแซมคัมภีร์โบราณ รวมถึงให้วธ.สนับสนุนพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลามฯเป็นแหล่งเรียนรู้ศาสนาอิสลามของประเทศไทยและส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นแหล่งซ่อมแซมคัมภีร์โบราณของโลกและประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายไปทั่วโลก” นายเสริมศักดิ์ กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น