"รมว.ปุ๋ง” เปิดมิติใหม่การบริหารงานกระทรวงวัฒนธรรม ชูวัฒนธรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ตั้งเป้าการทำงานให้ประเทศไทยมี “หนึ่งภาค หนึ่งมรดกโลก” สร้างสรรค์ประเพณีลอยกระทงเป็น World Event ให้ดังลั่นโลก เหมือนงาน “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์” พร้อมส่งเสริมผ้าไทยเจาะกลุ่มลูกค้าระดับสูง เพื่อไปสู่ระดับสากล
เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2567 นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้เดินทางเข้ากระทรวงวัฒนธรรมเป็นครั้งแรก โดยถือฤกษ์ดีเวลา 08.19 น. สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงวัฒนธรรม โดยมีนางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นางลาลีวรรณ กาญจนจารี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรมให้การต้อนรับ พร้อมให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า จะเพิ่มความเข้มข้นในการพัฒนาแนวทางใหม่ๆเชิงยุทธศาสตร์ เพื่อมุ่งเป้ายกระดับและเพิ่มประสิทธิภาพของการเป็นกระทรวงที่นำวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ มาใช้เป็นบทบาทนำในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของไทย โดยส่งเสริมให้ทุกคนร่วมกันนำวัฒนธรรมไทยมาสืบสาน รักษา และต่อยอดไปสู่มิติใหม่ๆ ให้เกิดการสร้างคุณค่าทางสังคมและมูลค่าทางเศรษฐกิจ ซึ่งหัวใจสำคัญที่จะขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจวัฒนธรรมของประเทศไทย จะมุ่งเน้นให้เกิดการพัฒนา “คน สังคม เศรษฐกิจ เทคโนโลยี และ Soft Power” ควบคู่กันไป
“ทิศทางการทำงานใหม่ๆของกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมจะเป็นกระทรวงที่ส่งเสริมและสนับสนุนการใช้ต้นทุนทางวัฒนธรรมที่หลากหลายของไทยเพื่อสนับสนุนมิติทางสังคมและเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรม หนึ่งหมุดหมายที่ดิฉันมองว่าหากเราช่วยกันขับเคลื่อนในปีนี้ จะเห็นประเทศไทยมีหนึ่งภูมิภาค หนึ่งมรดกโลก และการสร้างสรรค์ให้งานประเพณีลอยกระทงให้เป็น World Event เหมือนงาน Maha Songkran World Water Festival เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ของปีนี้”
นางสาวสุดาวรรณ กล่าวว่า ทุกภาคส่วนของกระทรวงวัฒนธรรมจะร่วมกันขับเคลื่อนงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ วันที่ 28 กรกฎาคม 2567 รวมทั้งจะบูรณาการการทำงานระหว่างกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะการทำงานร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เดินหน้า Thailand Tourism 2025 ตามนโยบาย IGNITE Thailand ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี “การทำงานของการดิฉันจะเน้นส่งเสริมเศรษฐกิจวัฒนธรรมเพื่อสร้างคุณค่าทางสังคมและมูลค่าทางเศรษฐกิจ การผลักดันเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เพื่อตอบสนองต่อนโยบายของรัฐบาล ตลอดจนนำวัฒนธรรมไทยที่จับต้องไม่ได้มาพัฒนาให้เกิดมูลค่าสูง ผลักดันการขึ้นทะเบียนมรดกโลกขององค์การยูเนสโก โดยเร่งรัดการขึ้นทะเบียนในส่วนที่เหลือภาคใต้ และภาคอื่นๆ ที่มีการขึ้นทะเบียนแล้ว ต้องประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จัก การส่งเสริมร้านค้าของที่ระลึกจากสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ และจะมีการสร้างเนื้อหาเพื่อสื่อสารในช่องทางใหม่ๆ เพื่อส่งเสริมการรับรู้และความตระหนักถึงวัฒนธรรมไทยของเยาวชนและคนรุ่นใหม่ของไทยด้วย"
ไม่มีความคิดเห็น