วธ.ชวนตะลุยเที่ยววัฒนธรรม One Day Trip นั่งสามล้อถีบโบราณ สำรวจเส้นทางประวัติศาสตร์ สัมผัสวิถีชีวิตชุมชนบ้านท่าฉลอม สมุทรสาคร ชมศิลปะไทย-จีน ไหว้ศาลเจ้าตำนาน 100 ปี “เยือนท่า 3 ถิ่น ยลศิลป์ใกล้กรุง” ชิมอาหารถิ่น “เกี๊ยวปลาท่าฉลอม-ปลายี่สนทุบ” และแชะ Steet Art สุดเก๋บนกำแพง กระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างรายได้แก่ชุมชน
วันที่ 3 สิงหาคม 2567 นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานพิธีเปิดสุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านท่าฉลอม โดยมี นายชัยวัฒน์ ตุนทกิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ดร.สุวันชัย แสงสุขเอี่ยม ผู้นำชุมชน ประธานกรรมการ บริษัท สมุทรสาครพัฒนาเมือง (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร นายกเทศบาลนครสมุทรสาคร ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสาคร หัวหน้าส่วนราชการ วัฒนธรรมจังหวัดภาคกลางและภาคตะวันออก ภาคีเครือข่าย ภาคเอกชน และชาวชุมชนคุณธรรมฯ บ้านท่าฉลอม เข้าร่วม ณ บริเวณริมเขื่อนวัดสุทธิวาตวราราม (วัดช่องลม) ตำบลท่าฉลอม อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร ในโอกาสนี้ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรมและคณะ ได้เยี่ยมชมบ้านท่าฉลอมศูนย์การท่องเที่ยว นั่งรถรางเยี่ยมชมเส้นทางถนนถวาย สัมผัสวิถีชีวิตย่านชุมชนเก่าท่าฉลอม มรดกจังหวัดสมุทรสาคร แวะชิมเครื่องดื่ม ชา/กาแฟ ณ ร้าน Everyday 1990 Cafe จากบ้านเก่าสู่ร้านกาแฟยอดนิยมของชุมชน ถ่ายภาพ ณ จุดถ่ายภาพ Street Art ปลาทูหอบรัก ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากบทเพลง ‘ท่าฉลอม’ ประพันธ์โดย ครูชาลี อินทรวิจิตร ศิลปินแห่งชาติ แวะสักการะศาลเจ้าพ่อกวนอู ซึ่งอยู่คู่กับชุมชนมายาวนานกว่าร้อยปี จากนั้นเดินทางถึงวัดสุทธิวาตวราราม (วัดช่องลม) ชมการแสดงรำถวายมือ จากเครือข่ายสภาวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสาคร สักการะพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 พร้อมสักการะหลวงพ่อหินแดง นอกจากนี้ภายในงานมีกิจกรรม ประกอบด้วย การสาธิตและจำหน่ายสินค้าภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม การแสดงศิลปวัฒนธรรม การแสดงเชิดสิงโต มังกร นิทรรศการเรื่องเล่าชุมชน และลานวัฒนธรรมสร้างสุขสุดคึกคัก
นางยุพา กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีที่ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านท่าฉลอม จังหวัดสมุทรสาคร ได้รับการคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ประจำปี พ.ศ. 2566 นับเป็นชุมชนที่มีผู้นำ “พลังบวร” และเครือข่ายในการขับเคลื่อนที่เข้มแข็ง คนในชุมชนมีความสุข มีความรักสามัคคี มีการอนุรักษ์สืบสาน รักษา ต่อยอด ภูมิปัญญาของท้องถิ่น มีศักยภาพ คุณภาพ มีความพร้อมด้านการท่องเที่ยวในทุกมิติ และสามารถต่อยอดไปสู่การท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมได้อย่างยั่งยืน สำหรับโครงการ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาลในการสร้างความเข้มแข็งให้แก่ระบบเศรษฐกิจฐานรากของชุมชน ด้วยการนำทุนทางวัฒนธรรมที่มีอยู่ในชุมชนมาพัฒนาต่อยอด เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ สร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2564 มาอย่างต่อเนื่องทุกปี ทำให้ปัจจุบันมีชุมชนคุณธรรมที่ได้รับเป็นสุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” แล้วทั้งสิ้น 40 ชุมชน ซึ่งเป็นการคัดเลือกชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ขับเคลื่อนด้วยพลังบวร ที่มีศักยภาพและความพร้อมด้านการท่องเที่ยวในทุกมิติทั่วประเทศ พร้อมเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติผู้มาเยือน ได้ศึกษาเรียนรู้ อัตลักษณ์ วิถีชีวิต วัฒนธรรม และประเพณีของชุมชน
รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวด้วยว่า จากคำขวัญจังหวัดสมุทรสาคร “เมืองประมง ดงโรงงาน ลานเกษตร เขตประวัติศาสตร์” แสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ ความหลากหลาย และเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร เป็นจุดมุ่งหมายในการลงทุนอุตสาหกรรม มีมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดต่อหัว สูงติดอันดับ 1 ใน 10 ของประเทศ และมีสินค้าเกษตรคุณภาพสูง อาทิ มะพร้าวน้ำหอมบ้านแพ้ว ลำไย ปลาสลิด เป็นต้น ตลอดจนมีแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สวยงาม ทั้งแบบ One Day Trip และพักค้างคืน เช่น ศาลพันท้ายนรสิงห์ สะพานแดง วัดใหญ่จอมปราสาท ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร วัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร และท่าฉลอม เป็นต้น ปัจจุบัน ท่าฉลอมมีความเป็นเมืองและมีความหลากหลายทางเศรษฐกิจ ทั้งตลาด กิจการต่อเรือ โรงงานอุตสาหกรรม ร้านค้า และทุนทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า ในด้านวิถีชีวิต ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี อาหารถิ่น อาทิ เกี๊ยวปลาท่าฉลอม ปลายี่สนทุบ น้ำเลี่ยงฮุ้น เป็นต้น ทรัพยากรธรรมชาติ รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม โดดเด่น มีรถสามล้อถีบโบราณ และรถรางชุมชนพร้อมให้บริการนักท่องเที่ยว จึงขอต้อนรับทุกท่านมาเยือนสัมผัสวิถีชุมชนบ้านท่าฉลอมความยินดีและเต็มใจยิ่ง
ผู้นำชุมชน กล่าวว่า มีความภาคภูมิใจอย่างยิ่ง ที่ได้รับรางวัล 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ประจำปี พ.ศ. 2566 ซึ่ง “ท่าฉลอม” สถานที่อันเป็นถิ่นสุขาภิบาลหัวเมืองแห่งแรกของประเทศไทย ถิ่นชุมชนประมง และถิ่นบ้านลูกมังกร ตามเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ เป็นเมืองท่าที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนกลาง ประกอบกับทำเลที่ตั้งที่เหมาะสม มีแม่น้ำท่าจีนโอบล้อมแผ่นดินราวกับมังกรใหญ่ หล่อเลี้ยงผู้คนจากรุ่นสู่รุ่น ภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรมที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติและศาสนา นอกจากนี้ชุมชนแห่งนี้มีการอนุรักษ์สืบสานประเพณีวัฒนธรรม การจัดงานประเพณี 18 มีนา สุขาภิบาลท่าฉลอม งานประเพณีไหว้เจ้า 9 ศาล เทศกาลกินเจ และเทศกาลตรุษจีน เล่ง เกีย ฉู่ สืบสานตำนานมังกร เป็นประจำทุกปี ดังคำขวัญชุมชนคุณธรรมฯ บ้านท่าฉลอม “เยือนท่า 3 ถิ่น ยลศิลป์ใกล้กรุง”
ทั้งนี้ “ท่าฉลอม” เป็นเมืองท่าที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนกลาง มีแม่น้ำท่าจีนโอบล้อมแผ่นดินราวกับมังกรใหญ่ และมีเรือฉลอมจอดเรียงรายอยู่เป็นจำนวนมาก จึงเป็นที่มาของชื่อชุมชนท่าฉลอม สถานที่อันเป็นถิ่นสุขาภิบาลหัวเมืองแห่งแรกของประเทศไทย ถิ่นบ้านลูกมังกร และถิ่นชุมชนประมง ดังคำขวัญชุมชนคุณธรรมฯ บ้านท่าฉลอม “เยือนท่า 3 ถิ่น ยลศิลป์ใกล้กรุง” โดยชุมชนแห่งนี้เป็นสังคมพหุวัฒนธรรมที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติและศาสนามาเป็นเวลายาวนานนับร้อยปี สะท้อนผ่านสถานที่และกิจกรรมการท่องเที่ยว อาทิ วัดแหลมสุวรรณาราม วัดสุทธิวาตวราราม วัดนักบุญอันนา และศาลเจ้าหลายแห่งที่มีอายุยาวนานกว่า 100 ปี ซึ่งตั้งอยู่บนถนนถวาย ทั้งนี้ ชุมชนมีการจัดงาน “ประเพณีไหว้เจ้า 9 ศาล เทศกาลกินเจ” และ “เทศกาลตรุษจีน เล่ง เกีย ฉู่ สืบสานตำนานมังกร” เป็นประจำทุกปี นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางสำรวจเส้นทางประวัติศาสตร์ และสัมผัสวัฒนธรรม วิถีชีวิตของชาวท่าฉลอมโดยรถรางชุมชน รถสามล้อถีบโบราณ หรือจักรยาน เยี่ยมชมศิลปะไทย - จีน ตามวัดและศาลเจ้าต่าง ๆ ตลอดจนภาพวาด Street Art ศิลปะร่วมสมัยบนกำแพงและบนฝาท่อรอบชุมชนกว่า 100 ภาพ นอกจากนี้ยังมีโฮมสเตย์ให้บริการที่พัก จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ บ้านเรืออุดมโฮมสเตย์ และความสุขโฮมสเตย์ รวมถึงมีอาหารพื้นถิ่นรสชาติดั้งเดิม อาทิ เกี๊ยวปลาท่าฉลอม ปลายี่สนทุบ ก๋วยเตี๋ยวหลอดแป้งสดโบราณ ผัดไทยกุ้งแห้ง ขนมเทียนสูตรโบราณ และน้ำเลี่ยงฮุ้น เป็นต้น ให้รับประทานแล้วติดใจ ก่อนเดินทางกลับพลาดไม่ได้เลยคือการช้อปผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมของชุมชนได้แก่ เรือประมงจำลองท่าฉลอม และอาหารทะเลแปรรูป ซึ่งทำมาจากวัตถุดิบภายในชุมชน ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลและรู้รายละเอียดได้ที่ Facebook page บ้านท่าฉลอม (www.facebook.com/BaanThachalom) และ Website มาหาสมุทรสาคร (www.visitsk.org)
ไม่มีความคิดเห็น