รัฐมนตรีวัฒนธรรม เยือนชุมชนอาข่าผาฮี้หารือชุมชนกำหนดนโยบายส่งเสริม Soft Power ชาติพันธุ์
เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2567 นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลในพื้นที่จังหวัดเชียงราย โดยได้เดินทางไปเยี่ยมเยือนชุมชนกลุ่มชาติพันธุ์อาข่า บ้านผาฮี้ อ.แม่สาย จังหวัดเชียงราย พบปะพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์และร่วมรับฟังข้อมูลเพื่อเตรียมพร้อมดำเนินนโยบายด้านชาติพันธุ์ หลังกฎหมายชาติพันธุ์ฉบับแรกของไทยมีผลบังคับใช้ในเร็ววันนี้
นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้กล่าวกับพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์อาข่าที่มาร่วมให้การต้อนรับว่า “รู้สึกดีใจมาก ที่ได้มาพบปะเยี่ยมเยือนพี่น้องในวันนี้ ในนามของรัฐบาลอยากเรียนกับพี่น้องว่า หลังจากที่พี่น้องได้ไปร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมจัดงาน KICK OFF กฎหมายชาติพันธุ์ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ตอนนี้ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ ที่พวกเราได้ร่วมกันผลักดันได้เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรแล้ว และอีกไม่นานก็จะประกาศใช้เป็นกฎหมายสำหรับพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์ทุกกลุ่มในประเทศไทย ดิฉันเชื่อว่าเมื่อกฎหมายนี้ประกาศใช้แล้วจะเป็นหลักประกันให้พี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์มีความมั่นคงในชีวิต สามารถประกอบอาชีพเพื่อสร้างรายได้ที่ยั่งยืน ดำรงอยู่อย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีรายได้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดี ตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญและมุ่งคุ้มครองและส่งเสริมศักยภาพกลุ่มชาติพันธุ์ให้มีความเสมอภาคอย่างทั่วถึงกัน”
บ้านผาฮี้ เป็นชุมชนชาวอาข่าติดชายแดนไทยเมียนมา ชุมชนอยู่ในความดูแลโครงการดอยตุง เป็นแหล่งปลูกกาแฟที่ใหญ่ที่สุดอีกแห่งหนึ่งในประเทศไทย ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ที่นี่นอกจากชาวอาข่าแล้ว ยังมีมูเซอร์แดง มูเซอร์ดำ ในอดีตพื้นที่บริเวณนี้มีถางป่าจนหัวโล้นแล้วปลูกฝิ่น ข้าวโพด จนกระทั่งในปี 2531 เมื่อโครงการพัฒนาดอยตุง ได้เข้ามาในหมู่บ้าน ส่งเสริมและสนับสนุนให้ชาวบ้านปลูกกาแฟกันมากขึ้น จนกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของชาวอาข่าผาฮี้ ที่หันมาปลูกกาแฟเป็นอาชีพหลักทั้งหมู่บ้าน โดยส่งเสริมให้ปลูกกาแฟพันธุ์อาราบิก้าซึ่งให้ผลดีในพื้นที่สูงจนโด่งดังไปทั่วโลก บ้านผาฮี้ ยังรักษาศาสนาดั้งเดิมของอาข่าไว้อย่างดี ยังนับถือและไหว้บรรพบุรุษแบบอาข่า และ ยังทำพิธีกรรมประเพณีแบบอาข่าทุกเทศกาล ยังรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีไว้ครบถ้วน แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวที่หมู่บ้านผาฮี้จำนวนมาก ชุมชนมีโฮมสเตย์ 50 หลัง 1 หลังสามารถรับแขกได้ 15-20 คน มีกฎระเบียบชัดเจน มีการจัดการขยะในชุมชนที่ดี และที่สำคัญดูแลไฟป่าได้อย่างดีเยี่ยม พื้นที่การดูแลรับผิดชอบของบ้านผาฮี้ มีเวรยามเฝ้าระวังไฟป่าตลอดทั้งปี ทำแนวกันไฟรอบแนวเขตพื้นที่รับผิดชอบของชุมชนทุกปี
ไม่มีความคิดเห็น