ศน. จัดกิจกรรม “ตักบาตรบนเมก” สวมหม้อห้อม หิ้วตะกร้าเข้าวัดวันธรรมสวนะช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดแพร่
โดยได้รับความเมตตาจากพระราชเขมากร เจ้าคณะจังหวัดแพร่ เจ้าอาวาสวัดพระบาทมิ่งเมือง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา ประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมด้วย นายคุณากร คชหิรัญ รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายชัยสิทธิ์ ชัยสัมฤทธิ์ผล รองผู้ว่าราชการจังหวัด เเละหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดเเพร่ การทำบุญตักบาตรในครั้งนี้เเสดงถึงการปันน้ำใจ ช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบภัยสร้างความปลื้มปิติให้กับผู้ที่มาร่วมงานกันทุกคนที่ได้ทำบุญช่วยเหลือผู้ประสบภัยและจะร่วมมือกันนำของไปมอบให้แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม การจัดกิจกรรม "ครอบครัวหิ้วตะกร้า ศรัทธาอิ่มบุญ อุดหนุนชุมชน" ได้ดำเนินการตามนโยบายของ นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ในการส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้ชุมชน ตลอดจนส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดี ในครอบครัวส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์โดยใช้ "วิถีธรรม" คือ การสะสมเสบียงบุญด้วยการหิ้วตะกร้าใส่ภัตตาหาร ทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนาอันก่อให้เกิดบุญกุศลที่สามารถทำได้ในทุกวันควบคู่กับ "วิถีท้องถิ่น" คือ วิถีชีวิตของชาวไทยในแต่ละภูมิภาค ซึ่งถือเป็นอัตลักษณ์ เป็นประเพณีที่ร่วมอนุรักษ์สืบสานมาอย่างยาวนาน รวมถึงการสำรวจวัดและศาสนสถานต่างๆที่เสียหายจากอุทกภัยเพื่อบูรณะฟื้นฟูร่วมกับหน่วยงานราชการและเครือข่ายทางศาสนอย่างเร่งด่วน
อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ จากสถานการณ์น้ำท่วม น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่จังหวัดแพร่ทำให้บ้านเรือนพี่น้องประชาชน สถานที่ราชการ หน่วยงานต่าง ๆ สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ และศาสนสถานหลายแห่งได้รับความเสียหายอย่างหนัก กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา ร่วมกับวัดและองค์กรเครือข่ายทางศาสนา 5 ศาสนา จังหวัดแพร่ ดร.สมศักดิ์ คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล พร้อมหน่วยงานเครือข่าย ในจังหวัดแพร่ มอบเครื่องอุปโภคบริโภค และของใช้ที่จำเป็น ถวายแด่พระราชเขมากร เจ้าคณะจังหวัดแพร่ เจ้าอาวาสวัดพระบาทมิ่งเมือง เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย เป็นการแสดงออกถึงความห่วงใยและเอื้ออาทรต่อกัน ถึงแม้อยู่ต่างพื้นที่ ต่างศาสนา หรือต่างความเชื่อ ในฐานะพี่น้องประชาชนคนไทยด้วยกัน แสดงถึงความห่วงใยของภาครัฐ องค์การทางศาสนาทุกศาสนา และองค์กรเครือข่ายภาคเอกชนที่มีต่อประชาชนชาวไทย
ซึ่งที่ผ่านมาองค์การทางศาสนาต่าง ๆ ในสังคมพหุวัฒนธรรม ได้ร่วมกันช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี โดยมุ่งหวังที่จะบรรเทาความเดือดร้อนให้กับศาสนิกชน เพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้ อีกทั้งยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันระหว่างหน่วยงานของรัฐและศาสนิกชนทุกศาสนา ซึ่งเป็นการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ในการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมแก่ประชาชน บนพื้นฐานหลักธรรมทางศาสนา หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มุ่งเน้นการสร้างความรัก ความสามัคคีในสังคมไทย โดยทุกองค์การศาสนาในประเทศไทยต้องร่วมกันสร้างสังคม แห่งความเอื้ออาทรมีน้ำใจ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ส่งเสริมให้ศาสนิกชนนำหลักธรรมทางศาสนาไปสู่การปฏิบัติในชีวิตประจำวัน เพื่อให้ศาสนิกชนเป็นคนดี มีคุณธรรม ร่วมเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ร่วมทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์ เพื่อสร้างความเข้าใจอันดีและความสมานฉันท์ระหว่างศาสนิกชนต่างศาสนา ทำให้ประเทศมีความสงบร่มเย็นในมิติศาสนาอย่างยั่งยืนสืบไป ////
ไม่มีความคิดเห็น