“รมว.สุดาวรรณ”ปลื้ม Soft Power ด้านการออกแบบและแฟชั่น ผ้าไหมไทยเผยแพร่ไปสู่ระดับนานาชาติ มอบรางวัลนักศึกษาชนะประกวด“The 5th Next Big Silk Designer Contest 2023 ” ออกแบบ-ตัดเย็บชุดผ้าไหมไทยในการแสดงแฟชั่นโชว์ชุดผ้าไหมไทยให้คณะรัฐมนตรี เอกอัครราชทูต-คู่สมรส กงสุลกิตติมศักดิ์และผู้แทน 93 ประเทศ ชมชุดผ้าไหมชนะประกวด ช้อปผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทยผ้าไหม วันที่ 1-8 ก.ย.นี้ ณ ศูนย์การค้า เอ็มสเฟียร์ สุขุมวิท
นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) มีนโยบายขับเคลื่อน Soft Power อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของไทย 11 สาขาตามนโยบายรัฐบาล โดยเฉพาะสาขาการออกแบบและแฟชั่นได้ส่งเสริมการนำผ้าไทยและผ้าไหมไทยมาตัดเย็บเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย รองเท้า กระเป๋าและของใช้ต่างๆผ่านการดำเนินโครงการผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย (CPOT) เพื่อให้ประชาชนและชุมชนมีอาชีพ รายได้ ส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศและมุ่งสืบสานพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงที่ทรงอนุรักษ์และส่งเสริมผ้าไหมไทยมายาวนาน และทรงเป็นผู้นำในการสวมใส่ผ้าไหมไทย ทำให้ผ้าไหมไทยเป็นที่รู้จักในระดับโลก ซึ่งวธ.ร่วมกับสมาคมส่งเสริมผ้าไหมและวัฒนธรรมไทย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงศึกษาธิการ หน่วยงานรัฐ เอกชนและเครือข่ายวัฒนธรรม จัดงานมหกรรมผ้าไหม ไหมไทยสู่เส้นทางโลก ครั้งที่ 13 และโครงการประกวด “The 5th Next Big Silk Designer Contest 2023” เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2567 ณ หอประชุมกองทัพเรือ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวอีกว่า กิจกรรมไฮไลท์ของงานมหกรรมผ้าไหมฯคือ การแสดงแฟชั่นโชว์ชุดผ้าไหมไทยโดยคณะรัฐมนตรี ผู้แทนรัฐบาลไทย เอกอัครราชทูตและคู่สมรส ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย กงสุลกิตติมศักดิ์และผู้แทนรวม 93 ประเทศ ซึ่งผลงานการออกแบบและตัดเย็บชุดผ้าไหมทุกชุดเป็นฝีมือของนักศึกษาสถาบันอาชีวศึกษาและสถาบันอุดมศึกษาในโครงการประกวด“The 5th Next Big Silk Designer Contest 2023” ทำให้ Soft Power ด้านการออกแบบและแฟชั่น รวมถึงผ้าไหมไทยได้รับการเผยแพร่ไปสู่ระดับนานาชาติ นอกจากนี้ ผ้าไหมทุกผืนล้วนมาจากโครงการศูนย์ศิลปาชีพบางไทร ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้ชุมชนได้สืบทอดมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมและสามารถสร้างอาชีพและรายได้
“การจัดงานมหกรรมผ้าไหม ไหมไทยสู่เส้นทางโลก ครั้งที่ 13 และโครงการประกวด“The 5th Next Big Silk Designer Contest 2023” เป็นสะพานเชื่อมความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมระหว่างประเทศไทยและนานาประเทศ และเป็นเวทีสำคัญในการเปิดโอกาสให้นักศึกษาไทยที่มีความใฝ่ฝัน มุ่งมั่นที่จะเป็นดีไซเนอร์ได้แสดงความสามารถในการออกแบบและตัดเย็บชุดผ้าไหมไทยให้กับคณะรัฐมนตรี ผู้แทนรัฐบาลไทย เอกอัครราชทูตและคู่สมรส และผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย นอกจากนี้ นักศึกษาได้เข้าร่วมแลกเปลี่ยนความรู้ เพิ่มพูนทักษะและประสบการณ์กับนักออกแบบนานาชาติ ทำให้ได้รับการพัฒนาความรู้และทักษะความสามารถด้านการออกแบบไปสู่การเป็นดีไซเนอร์มืออาชีพระดับชาติและนานาชาติในอนาคต ช่วยเสริมสร้างให้ผ้าไหมไทยเป็นที่รู้จักในเวทีโลกนำไปสู่การส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนและการพัฒนาต่อยอดผ้าไหมไทยอย่างยั่งยืน” นางสาวสุดาวรรณ กล่าว
ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมได้มอบรางวัลการประกวด“The 5th Next Big Silk Designer Contest 2023” ทั้งหมด 7 รางวัล ได้แก่ รางวัลออกแบบลายผ้าไหมร่วมสมัย 2 รางวัล ประกอบด้วย 1.รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 วิทยาลัยอาชีวศึกษาภูเก็ต จากผลงาน “Genova” ได้รับโล่และเงินรางวัล 30,000 บาท 2.รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จากผลงาน “นักระเฮ้า” ได้รับโล่และเงินรางวัล 10,000 บาท และรางวัลการประกวดออกแบบชุดผ้าไหมร่วมสมัยโดยเป็นรางวัลชมเชย 5 รางวัล ได้แก่ 1.มหาวิทยาลัยขอนแก่นจากผลงาน
“กูยคนเลี้ยงช้าง” 2.วิทยาลัยอาชีวศึกษาลำปาง จากผลงาน “Homely” 3.วิทยาลัยอาชีวศึกษาร้อยเอ็ดจากผลงาน “Peony” 4.วิทยาลัยอาชีวศึกษานครราชสีมาจากผลงาน “หัตถกรรมงานศิลป์” และ5.วิทยาลัยอาชีวศึกษาภูเก็ตจากผลงาน “CHINO BENFICA” โดยรางวัลชมเชยทุกรางวัลได้รับเงินรางวัล 10,000 บาท
ภายในงานดังกล่าวที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-8 กันยายน 2567 มีนิทรรศการจัดแสดงชุดผ้าไหมไทยที่ออกแบบและตัดเย็บโดยนักศึกษาสถาบันอาชีวศึกษาและสถาบันอุดมศึกษาที่เข้าร่วมโครงการประกวดฯ ซึ่งคณะรัฐมนตรี ผู้แทนรัฐบาลไทย เอกอัครราชทูตและคู่สมรส ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย กงสุลกิตติมศักดิ์และผู้แทนรวม 93 ประเทศสวมใส่ในการแสดงแฟชั่นโชว์ชุดผ้าไหมไทยในงานมหกรรมผ้าไหม ไหมไทยสู่เส้นทางโลก ครั้งที่ 13 เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2567 ณ หอประชุมกองทัพเรือและการจำหน่ายผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย(CPOT)ผ้าไหม
ไม่มีความคิดเห็น