พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานผ้าพระกฐิน ประจำปี 2567 ให้กระทรวงวัฒนธรรมไปทอดถวายยังที่ชุมนุมสงฆ์วัดหนองแวง อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น
เมื่อวันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ เวลา ๑๐.๐๐ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานผ้าพระกฐินพร้อมเครื่องบริวารพระกฐิน ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมได้ขอรับพระราชทาน เพื่อน้อมนำไปทอดถวายยังที่ชุมนุมสงฆ์ ณ วัดหนองแวง จังหวัดขอนแก่น โดยมีนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทานกระทรวงวัฒนธรรม ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๗ และมีนางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นางสาวพลอย ธนิกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหาร วัฒนธรรมจังหวัด ข้าราชการ เจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรมและพุทธศาสนิกชน เข้าร่วม ณ พระอุโบสถวัดหนองแวง อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น
นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า เนื่องในเทศกาลกฐิน พุทธศักราช 2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานผ้าพระกฐินให้กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) นำไปถวายพระสงฆ์ที่จำพรรษา ณ วัดหนองแวง ตำบลในเมือง อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ผลานิสงส์แห่งการถวายผ้าพระกฐินครั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ขอพระองค์ทรงพระเจริญ เป็นฉัตรแก้วปกเกศอาณาประชาราษฎรตลอดไป รวมทั้งบันดาลให้ผู้มีจิตศรัทธาร่วมบุญกุศลได้มีจิตตั้งมั่นในความดีงาม ถึงพร้อมด้วยสรรพกำลังในอันที่จะบำเพ็ญคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาและประเทศชาติ ให้เจริญรุ่งเรืองสืบไป
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวอีกว่า การทอดกฐินเป็นประเพณีสำคัญที่ถือปฏิบัติสืบทอดมายาวนานกระทั่งปัจจุบัน ซึ่งกฐินกาลมีกำหนดระยะเวลา คือ ระหว่างวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ของทุกปี พุทธศาสนิกชนจะร่วมทำบุญถวายผ้ากฐิน เพื่อเป็นการสืบทอดและทำนุบำรุงประเพณีสำคัญทางพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองและเป็นการสร้างกุศลอันยิ่งใหญ่ ก่อให้เกิดอานิสงส์ทั้งพระสงฆ์และฆราวาส โดยกฐินพระราชทาน เป็นกฐินที่พระมหากษัตริย์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานผ้าพระกฐินให้แก่หน่วยงานราชการ องค์กร คณะบุคคล หรือบุคคลผู้ประสงค์ขอรับพระราชทานนำไปทอดถวาย ณ พระอารามหลวง ทั้งกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด
นางสาวสุดาวรรณ กล่าวต่อไปว่า ในโอกาสนี้ วธ.ได้จัดพิมพ์หนังสือ “ปกิณกวัฒนธรรม วัดหนองแวง และแหล่งเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรม” เพื่อเผยแพร่ประวัติวัดหนองแวง สิ่งสำคัญภายในวัด แหล่งเรียนรู้ แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ รวมถึงสถานที่สำคัญบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ประชาชนและผู้มาร่วมบุญกุศลในครั้งนี้ อีกทั้งเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ใช้วัฒนธรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจอีกด้วย ทั้งนี้ วัดหนองแวงเป็นวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ต่อมาปี พ.ศ. 2527 วัดหนองแวงได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ และได้รับการพัฒนาเรื่อยมา กระทั่งปี พ.ศ. 2542 ได้รับยกย่องเป็นวัดพัฒนาตัวอย่างดีเด่น ปัจจุบันมีพระเทพวิสุทธิคุณ เป็นเจ้าอาวาสวัดหนองแวงและเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น และมีศาสนสถานสำคัญ ได้แก่ พระมหาธาตุแก่นนคร จัดสร้างขึ้นเนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี และมหามังคลานุสรณ์ 200 ปี เมืองขอนแก่น เป็นศิลปะทวารวดีผสมผสานศิลปะอินโดจีน ภายในมีพระบรมสารีริกธาตุประดิษฐานในบุษบก พระมหาธาตุแก่นนคร นับเป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชน เป็นมรดกทางวัฒนธรรมและเป็นแหล่งเรียนรู้ให้แก่ผู้มาสักการะ มีแหล่งเรียนรู้ แหล่งท่องเที่ยวบริเวณใกล้เคียง เช่น วัดธาตุ พระธาตุขามแก่น วัดไชยศรี พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ขอนแก่น ศูนย์การเรียนรู้ภูมิปัญญาไทยด้านศิลปกรรมการแสดงพื้นบ้าน (หมอลำ) แม่ครูราตรี ศรีวิไล โฮงมูนมังเมืองขอนแก่น ศูนย์การเรียนรู้นาฏกรรมโขน นาฏศิลป์ไทย จังหวัดขอนแก่น เป็นต้น
“หนังสือ “ปกิณกวัฒนธรรม วัดหนองแวง และแหล่งเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรม” นอกจะเผยแพร่องค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์แก่ผู้สนใจด้านศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรมแล้ว ยังเป็นการสนับสนุนนโยบายขับเคลื่อน Soft Power ด้านท่องเที่ยว โดยส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนเชิงวัฒนธรรมและสร้างสรรค์ ส่งเสริมเศรษฐกิจวัฒนธรรมเพื่อสร้างคุณค่าทางสังคมและมูลค่าทางเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้แก่ประชาชนและชุมชนอย่างยั่งยืนต่อไป” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น