สันนิบาตสหกรณ์ฯ ส่งเสริมศักยภาพสตรีสหกรณ์ เด้งรับนโยบายสร้างเครือข่ายสตรีให้เข้มแข็ง
(วันที่ 8 มีนาคม 2568) นายนพดล วรมานะกุล รองประธานฯ สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย (สสท.) เป็นประธานพิธีเปิดโครงการประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ การประชุมสตรีสหกรณ์ระดับชาติ และการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 ของชมรมสตรีสหกรณ์แห่งประเทศไทย หัวข้อ “เอกภาพสตรีสหกรณ์ในประเทศไทยสู่สากล” โครงการ “การเพิ่มศักยภาพผู้นำสตรีในสหกรณ์ไทย” ระหว่างปี พ.ศ. 2548-2552 ชมรมมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อการพัฒนาศักยภาพสตรีสหกรณ์ การใช้วิธีการสหกรณ์ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตสมาชิก และการมีส่วนร่วมในการส่งเสริมกิจการสหกรณ์ และเนื่องในโอกาสวันสตรีสากล 8 มีนาคม 2568 ที่กำลังจะมาถึง ชมรมฯจึงได้กำหนดจัดโครงการประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ การประชุมสตรีสหกรณ์ระดับชาติ และการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 25667 เพื่อร่วมเฉลิมลองวันสำคัญนี้
นายนพดล วรมานะกุล รองประธานฯ สสท. เปิดเผยว่าปัจจุบันสตรีมีบทบาทความสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ จึงกำหนดไว้ในแผนการพัฒนาศักยภาพสตรีที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ โดยตั้งเป็นองค์กรสตรี เพื่อการส่งเสริมเสมอภาคระหว่างเพศ และเพิ่มพลังบทบาทของสตรีและเด็กหญิงทั่วโลก อันเป็นกรอบทิศทางการพัฒนาระดับโลกที่ประเทศสมาชิกสหประชาชาติต้องนำไปเป็นแผนปฏิบัติการ สำหรับขบวนการสหกรณ์โลกนำโดยองค์การสัมพันธภาพสหกรณ์ระหว่างประเทศ (International Cooperative Alliance: ICA) ที่สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทยเป็นสมาชิก และมีส่วนร่วมรณรงค์ด้านบทบาทสตรีในสหกรณ์ ซึ่งได้กำหนดไว้ในหลักการสหกรณ์สากล ประกอบด้วยคณะกรรมการด้านสตรีของ ICA ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (ICA-AP Committee on Women) รวมทั้งจัดฝึกอบรมพัฒนาศักยภาพสตรีมาโดยตลอด ซึ่งสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทยในฐานะสมาชิกของ ICA ได้ให้การสนับสนุนโดยการสนับสนุนส่งผู้แทนสตรีสหกรณ์เข้าร่วมอบรมสัมมนาในโครงการของ ICA มาอย่างต่อเนื่อง
การจัดประชุมสัมมนาในครั้งนี้ เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างเครือข่ายตามแผนกลยุทธ์ที่กำหนดไว้ โดยจะขยายเครือข่ายออกไปยังระดับสหกรณ์ ระดับจังหวัด ระดับภาค ระดับประเทศสู่สากล เพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการตลาด รวมถึงการสร้างเอกภาพของขบวนการสตรีสหกรณ์ การขับเคลื่อนนโยบาย เพื่อการสร้างงานสร้างอาชีพสำหรับสมาชิกและประชาชนผู้สนใจในอุดมการณ์และหลักการสหกรณ์ โดยส่งเสริมการจัดตั้งสหกรณ์บริการแรงงาน และสหกรณ์บริการด้านสุขภาพ ซึ่งสอดคล้องกับโครงสร้างประชากรที่จำนวนการเกิดลดลง และมีจำนวนผู้สูงอายุมากขึ้น การสร้างโอกาสในบทบาทผู้นำสตรีสหกรณ์เพื่อการดำรงตำแหน่งสำคัญในองค์การต่าง ๆ และการพัฒนาศักยภาพในด้านการศึกษาและการฝึกอาชีพด้านต่าง ๆ
ในการประชุมสัมมนาครั้งนี้ นับเป็นก้าวแรกที่มีผู้แทนสตรีที่มาจากนิติบุคคลสหกรณ์เข้าประชุม กว่า40คนทำให้การดำเนินงานชมรมสตรีครบองค์ประกอบในการก้าวเดินไปข้างหน้าตามวัตถุประสงค์หลักของการมีส่วนร่วมในการส่งเสริมกิจการสหกรณ์
ไม่มีความคิดเห็น