ต้องไม่พลาด 13 - 15 เม.ย.นี้ “สุดาวรรณ” ชวนชมโชว์หนังใหญ่ไฟกะลาแบบโบราณ วัดขนอน จ.ราชบุรี สวยสุดของไทยชมความวิจิตรงดงาม หนังเงานานาชาติ “อินเดีย - อินโดนีเซีย - สปป.ลาว”ประกาศยกระดับ “งานเทศกาลหนังใหญ่วัดขนอนและมหกรรมหนังเงานานาชาติ” ดันเป็น Soft Power ด้านศิลปะ - สืบสานมรดกหนังใหญ่สู่มรดกโลก
นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า ได้พิจารณาคัดเลือก3 เทศกาลประเพณี ได้แก่ เทศกาลเมืองครามสกลนคร “Kram & Craft โลก” จังหวัดสกลนคร เทศกาลหนังใหญ่วัดขนอนและมหกรรมหนังเงานานาชาติ จังหวัดราชบุรี และเทศกาลภูเก็ตเมืองสร้างสรรค์ “Kebaya Festival” จังหวัดภูเก็ต เพื่อยกระดับให้เป็น Soft Power ด้านเฟสติวัล เทศกาลประเพณีและด้านท่องเที่ยวตามนโยบายของรัฐบาล ตั้งเป้าส่งเสริมการท่องเที่ยวทั้ง 3 เทศกาลจะทำไทยเป็นหมุดหมายด้านการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก และกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวสามารถวางแผนการเดินทางท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
รมว.วธ. กล่าวว่า เทศกาลหนังใหญ่วัดขนอนฯ วธ. ร่วมกับกรมส่งเสริมวัฒนธรรม จังหวัดราชบุรี อำเภอโพธารามวัดขนอน สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดราชบุรี การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานราชบุรี องค์การบริหารส่วนตำบลสร้อยฟ้า เครือข่ายศิลปินและเครือข่ายวัฒนธรรม จัดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ทุกปี โดยปีนี้จัดครั้งที่ 18 ภายใต้ธีม “มรดกศิลป์แผ่นดินไทย...มรดกหนังใหญ่...ก้าวสู่มรดกโลก” ระหว่างวันที่ 13 - 15 เมษายน 2568 ณ วัดขนอน ตำบลสร้อยฟ้า อำเภอโพธาราม จังหวัดรบุรี เพื่ออนุรักษ์ สืบสานมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติ
สร้างภาพลักษณ์การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ส่งเสริมอัตลักษณ์ความเป็นไทยไปสู่ระดับชาติและนานาชาติ ขับเคลื่อนนโยบาย Soft Power และอุตสาหกรรมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ ด้านศิลปะ รวมถึงส่งเสริมเศรษฐกิจด้วยทุนทางวัฒนธรรมเพื่อสร้างรายได้ให้กับชุมชน
“กิจกรรมภายในงาน อาทิ แสดงหนังใหญ่ไฟกะลาแบบโบราณ 3 คณะ และหนังใหญ่ติดตัวโขน ตอน “ยกรบ-ถวายลิง - ชูกล่องดวงใจ” การแสดงหนังเงาจากประเทศอินเดีย อินโดนีเซีย และสปป.ลาว การแสดงศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย อาทิ แสดงโขนหุ่นละครเล็ก หุ่นคน ลิเกฮูลู หนังตะลุงมโนราห์ นอกจากนี้มีนิทรรศการองค์ความรู้ฯ การเสวนาแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ “หนังใหญ่” กิจกรรมลานวัฒนธรรมสร้างสรรค์ การสาธิตอาหารพื้นถิ่นและการสาธิตงานช่างสิบหมู่ ตลาดชุมชนโบราณ “ตลาดด่านขนอน” และจำหน่ายอาหารพื้นถิ่น ผลิตภัณฑ์ชุมชน ผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมจากจังหวัดราชบุรี และกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง เป็นต้น” นางสาวสุดาวรรณ กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น